“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง” (เส้นทางปฏิวัติของลุงฟาง)
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
ผมเชื่อว่าคุณคงเคยได้ยินชื่อของลุงแก่ๆคนหนึ่งชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า
“มาซาโนบุ ฟูกูโอกะ”
มาบ้างและคงเคยอ่านหนังสือปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียวมาบ้างแล้ว
แต่ถ้าไม่รู้จักหรือไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อนผมแนะนำว่าให้ลองหามาอ่านสักครั้ง
เพราะมันเหมือนเป็นการเปิดมุมมองพลิกกลับทฤษฎีอีกด้านหนึ่งที่ถูกครอบมายาวนาน
แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆเพลงนี้จะทำให้คุณรู้จักตัวตนของเขาเพิ่มขึ้น “ลุงฟาง”
เพลงลุงฟางขับร้องและประพันธ์โดยศิลปินเพื่อชีวิต แอ๊ด
คาราบาวหรือนายยืนยง โอภากุล เป็นเพลงในอัลบั้มชุดที่16 หัวใจยังรักควาย เมื่อปีพ.ศ.2538 เพลงลุงฟางมีเสน่ห์ที่ชวนฟังอยู่สองประเด็นหลักคือ ประเด็นแรกเรื่องการเรียบเรียงดนตรีที่มีความเป็นสากลโดยใช้เสียงกีตาร์โซโล่ขึ้นมาให้มีความโดดเด่นในท่อนIntro และเปลี่ยนมาเป็นเสียงกีตาร์คอร์ดที่โอบอุ้มเสียงร้องได้อย่างสมดุล
ประการที่สองคือเนื้อร้องโดยมีการเกริ่นนำสู่เรื่องราวบรรยากาศ มีเนื้อหาและสรุป
ทำให้คนฟังสามารถจินตนาการตามและเห็นภาพที่ชัดเจน
เพลงลุงฟางได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของชาวนาญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่า
มาซาโนบุ ฟูกูโอกะ ฟูกูโอกะ
ชายผู้ที่กลับคืนสู่วิธีธรรมชาติด้วยการทำนาโดยไม่ต้องทำนา โดยท่อนแรกของเพลงได้เล่าให้เห็นถึงบรรยากาศของกระท่อมฟางที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ห่างไกลผู้คน ส่วนท่อนที่สองของเพลงได้กล่าวถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ของลุงฟางและแนวคิดวิธีการจัดการพื้นที่แบบพึ่งพาธรรมชาติ และท่อนที่สามกับท่อนที่สี่ผู้แต่งได้เล่าถึงความสุขของการใช้ชีวิตของลุงฟางแบบพึ่งพาอาศัยกันของคนกับธรรมชาติยึดถือธรรมะและความสันโดษในการดำเนินชีวิต
จุดที่น่าสนใจของเพลงลุงฟางอยู่ตรงนี้ครับ “เสียงไก่ป่าขัน ตะวันโผล่พ้นภูผา แหวกกอข้าวกล้าถั่วงางอกแซม ไม่ไถไม่พรวน ไม่วางยาฆ่าแมลง คนพืชมดแมงร่วมมือทำนา พอฝนโปรยฟ้าโรยร่วมแรงผลผลิตงดงามก็ตามมา ทำนาโดยไม่ต้องทำนา เก็บเวลาไว้คุยกับตะวัน” ท่อนนี้ได้ซ่อนถึงศาสตร์ที่ว่าด้วยการ “ทำนา โดยไม่ต้องทำนา” ตามวิถีโบราณ คือ ไม่ไถพรวนดิน ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีหรือทำปุ๋ยหมัก ไม่กำจัดวัชพืชไม่ว่าด้วยการถากถางหรือใช้ยากำจัดวัชพืชและไม่ใช้สารเคมี
ซึ่งขนบวิธีการที่ไม่ทันสมัยแบบนี้มันจะช่วยเรื่องการสร้างความสมดุลทางธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อคนและสัตว์สามารถปรับปรุงการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมให้ดีขึ้น สุดท้ายก็จะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพปราศจากสารพิษ ลดต้นทุนการผลิตและใช้แรงงานน้อย นี่คือทางรอดนี่คือทางเลือกของชาวนาในปัจจุบัน
เชื่อหรือไม่ว่าแบบแผนการทำนาในปัจจุบันกับวันที่เทคโนโลยียกระดับขีดความสามารถไปข้างหน้าเพื่อสนองต่อความต้องการบริโภคจำนวนมากของคนบางกลุ่มส่งผลให้บริษัทข้ามชาติ
และในชาติหลายรายผลิตสารเคมี ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงต่างๆ
ออกมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตของพืชผลให้แก่เกษตรกรนำออกขายสู่ตลาดอย่างไร้ขอบเขตการควบควบคุม ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไปเสียหมดสิ้น
ท้องไร่ท้องนาเต็มไปด้วยสารเคมีและยาแมลงซึ่งผลผลิตที่ได้มานั้นก็เต็มไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นเดียวกัน
ทางรอดหนึ่งจะต้องมาจากการปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียวอย่างเฉกเช่นกับลุงฟาง มาซาโนบุ
ฟูกูโอกะ
อยากเห็นการกลับมาของท้องไร่ท้องนาอย่างเฉกเช่นในอดีต ไม่ไถพรวนดิน
ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่กำจัดวัชพืชและไม่ใช้สารเคมี ลองดูนะครับอยากเห็นบ้านเราในมุมนี้บ้าง