วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2560

เส้นทางปฏิวัติของลุงฟาง

“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง”  (เส้นทางปฏิวัติของลุงฟาง)
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            ผมเชื่อว่าคุณคงเคยได้ยินชื่อของลุงแก่ๆคนหนึ่งชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “มาซาโนบุ  ฟูกูโอกะ” มาบ้างและคงเคยอ่านหนังสือปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียวมาบ้างแล้ว  แต่ถ้าไม่รู้จักหรือไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อนผมแนะนำว่าให้ลองหามาอ่านสักครั้ง  เพราะมันเหมือนเป็นการเปิดมุมมองพลิกกลับทฤษฎีอีกด้านหนึ่งที่ถูกครอบมายาวนาน  แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆเพลงนี้จะทำให้คุณรู้จักตัวตนของเขาเพิ่มขึ้น  “ลุงฟาง”

เพลงลุงฟางขับร้องและประพันธ์โดยศิลปินเพื่อชีวิต  แอ๊ด  คาราบาวหรือนายยืนยง  โอภากุล  เป็นเพลงในอัลบั้มชุดที่16  หัวใจยังรักควาย  เมื่อปีพ.ศ.2538  เพลงลุงฟางมีเสน่ห์ที่ชวนฟังอยู่สองประเด็นหลักคือ  ประเด็นแรกเรื่องการเรียบเรียงดนตรีที่มีความเป็นสากลโดยใช้เสียงกีตาร์โซโล่ขึ้นมาให้มีความโดดเด่นในท่อนIntro  และเปลี่ยนมาเป็นเสียงกีตาร์คอร์ดที่โอบอุ้มเสียงร้องได้อย่างสมดุล  ประการที่สองคือเนื้อร้องโดยมีการเกริ่นนำสู่เรื่องราวบรรยากาศ  มีเนื้อหาและสรุป  ทำให้คนฟังสามารถจินตนาการตามและเห็นภาพที่ชัดเจน
เพลงลุงฟางได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของชาวนาญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่า มาซาโนบุ  ฟูกูโอกะ  ฟูกูโอกะ ชายผู้ที่กลับคืนสู่วิธีธรรมชาติด้วยการทำนาโดยไม่ต้องทำนา  โดยท่อนแรกของเพลงได้เล่าให้เห็นถึงบรรยากาศของกระท่อมฟางที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ห่างไกลผู้คน  ส่วนท่อนที่สองของเพลงได้กล่าวถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ของลุงฟางและแนวคิดวิธีการจัดการพื้นที่แบบพึ่งพาธรรมชาติ  และท่อนที่สามกับท่อนที่สี่ผู้แต่งได้เล่าถึงความสุขของการใช้ชีวิตของลุงฟางแบบพึ่งพาอาศัยกันของคนกับธรรมชาติยึดถือธรรมะและความสันโดษในการดำเนินชีวิต

จุดที่น่าสนใจของเพลงลุงฟางอยู่ตรงนี้ครับ  เสียงไก่ป่าขัน  ตะวันโผล่พ้นภูผา  แหวกกอข้าวกล้าถั่วงางอกแซม  ไม่ไถไม่พรวน  ไม่วางยาฆ่าแมลง  คนพืชมดแมงร่วมมือทำนา  พอฝนโปรยฟ้าโรยร่วมแรงผลผลิตงดงามก็ตามมา  ทำนาโดยไม่ต้องทำนา  เก็บเวลาไว้คุยกับตะวัน”  ท่อนนี้ได้ซ่อนถึงศาสตร์ที่ว่าด้วยการ ทำนา โดยไม่ต้องทำนา ตามวิถีโบราณ คือ ไม่ไถพรวนดิน  ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีหรือทำปุ๋ยหมัก  ไม่กำจัดวัชพืชไม่ว่าด้วยการถากถางหรือใช้ยากำจัดวัชพืชและไม่ใช้สารเคมี ซึ่งขนบวิธีการที่ไม่ทันสมัยแบบนี้มันจะช่วยเรื่องการสร้างความสมดุลทางธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย  ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อคนและสัตว์สามารถปรับปรุงการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมให้ดีขึ้น  สุดท้ายก็จะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพปราศจากสารพิษ  ลดต้นทุนการผลิตและใช้แรงงานน้อย  นี่คือทางรอดนี่คือทางเลือกของชาวนาในปัจจุบัน

เชื่อหรือไม่ว่าแบบแผนการทำนาในปัจจุบันกับวันที่เทคโนโลยียกระดับขีดความสามารถไปข้างหน้าเพื่อสนองต่อความต้องการบริโภคจำนวนมากของคนบางกลุ่มส่งผลให้บริษัทข้ามชาติ และในชาติหลายรายผลิตสารเคมี ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงต่างๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตของพืชผลให้แก่เกษตรกรนำออกขายสู่ตลาดอย่างไร้ขอบเขตการควบควบคุม  ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไปเสียหมดสิ้น  ท้องไร่ท้องนาเต็มไปด้วยสารเคมีและยาแมลงซึ่งผลผลิตที่ได้มานั้นก็เต็มไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นเดียวกัน

ทางรอดหนึ่งจะต้องมาจากการปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียวอย่างเฉกเช่นกับลุงฟาง  มาซาโนบุ  ฟูกูโอกะ  อยากเห็นการกลับมาของท้องไร่ท้องนาอย่างเฉกเช่นในอดีต  ไม่ไถพรวนดิน  ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่กำจัดวัชพืชและไม่ใช้สารเคมี  ลองดูนะครับอยากเห็นบ้านเราในมุมนี้บ้าง