วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

บทความทางวิชากาล ทำไมต้อง No Child Left Behind (NCLB) ?


อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง  ( ตอน  ทำไมต้อง  No Child  Left  Behind  (NCLB) ?    
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            “เด็กหลังห้อง”  เป็นคำเรียกขานของครูสำหรับนักเรียนที่ไม่สนใจการเรียน  ไม่มีความสุขในการเรียน  มีพฤติกรรมเสี่ยงด้านต่าง ๆ  จนมีแนวโน้มว่าจะไม่จบการศึกษา  เด็ก ๆ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะถูกมองข้ามจากครูผู้สอนและไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าใดนัก  จึงดูเสมือนว่า  เขาเหล่านั้นถูกทอดทิ้งโอกาสและไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
    
ผลที่เกิดขึ้นจากการจัดการศึกษาของโรงเรียนในแต่ละปีการศึกษา  จึงมีภาพแสดงความยินดีของนักเรียนที่สำเร็จการศึกษากับภาพแห่งความเศร้าสร้อยของนักเรียนที่ไม่สำเร็จการศึกษา  วนเวียนอยู่แบบนี้ทุกปีการศึกษาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จากบทเรียนนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเด็กนักเรียนนั้นเขามีความต่าง  เขามีศักยภาพที่ไม่เหมือนกัน  และมีความพร้อมหรือวุฒิภาวะที่แตกต่าง
  ถ้ามองจากมุมดังกล่าว  ครูจึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลช่วยเหลือเด็กหลังห้องกลุ่มนี้เป็นพิเศษ  “ไม่ทิ้งเด็กไว้ข้างหลัง...ไม่มีเด็กคนใดถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง”  No  Child  Left  Behind  (NCBL)  ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้  นายรณชัย  สุขสมบูรณ์  ผอ.สพม.32  ได้นำมาเป็นจุดเน้นเพื่อลงสู่สถานศึกษา  โดยได้ชี้แจงหลักการและแนวปฏิบัติสู่พี่น้องเพื่อนครูว่า...

“ไม่ทิ้งเด็กไว้ข้างหลัง”  No  Child  Left  Behind  (NCLB)  เป็นรูปแบบการบริหารจัดการ  โดยน้อมนำพระราชดำรัสในหลวง  ร.9  “เด็กรักครู  ครูรักเด็ก”  มาใช้ในการเรียนรู้ระหว่างครูกับนักเรียนด้วยความรัก  เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีความสุข  เป็นคนดี  มีทักษะชีวิต  ได้พัฒนาเต็มศักยภาพของแต่ละบุคคล  ประสบผลสำเร็จจากการเรียนรู้เพื่อการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ  โดยไม่มีนักเรียนคนใดถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังโดยเฉพาะเด็กหลังห้อง
การนำรูปแบบการบริหารจัดการตามแนวคิด  No  Child  Left  Behind  (NCLB)  มีวัตถุประสงค์อยู่  3  ประการ  ประกอบด้วย  หนึ่งเพื่อน้อมนำพระราชดำรัสในหลวง  ร.9  “เด็กรักครู  ครูรักเด็ก”  สู่การปฏิบัติ  สองเพื่อดำเนินงานตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษา  ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร  และสามเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน  โดยขับเคลื่อนแนวคิด  No  Child  Left  Behind  (NCLB)  “ไม่มีเด็กคนใด  ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง”

การพัฒนาศักยภาพนักเรียนรายบุคคลให้มีความสุขในการเรียน  จบการศึกษาในปีการศึกษานั้น ๆและมีทักษะชีวิตด้านการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพที่สุจริต  จึงมีความสำคัญในลำดับต้น ๆ  ที่ครูต้องทำความเข้าใจและเข้าถึงเด็กหลังห้องกลุ่มนี้ให้มาก  เพราะถ้าเรามัวหลงแต่ชื่นชมเด็กที่เรียนเก่งอย่างเดียว  และไม่สนใจหรือไม่ใส่ใจดูแลเด็กหลังห้องอย่างที่ควรแล้ว  การขับเคลื่อนแนวคิด   No  Child  Left  Behind  (NCLB)  ก็จะไม่เห็นประสบผลสำเร็จ 
ช่วยกันนะครับคุณครู  อยากเห็นโรงเรียนต่าง ๆในมุมแบบนี้บ้าง  นี่แหล่ะคือคำตอบที่ว่า  ทำไมต้อง  No  Child  Left  Behind  (NCLB)  “ไม่ทิ้งเด็กไว้ข้างหลัง...ไม่มีเด็กคนใดถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง” 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น