วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

บทความทางวิชากาล...แบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียนดีไหม ?

อยากเห็นศรีสะเกษในมุมนี้บ้าง  ตอน  แบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียนดีไหม ?
โดย  นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            คุณคิดอย่างไรกับพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนของเด็กนักเรียนในปัจจุบัน ?  นี่คือคำถามปลายเปิดที่อยากให้ผู้อ่านได้ลองแสดงความคิดเห็นหรือสะท้อนพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของเด็กนักเรียนในโรงเรียนว่าเป็นอย่างไรบ้าง  โดยเฉพาะครูที่ถือว่าเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิด  ปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนโดยตรงและพบเจอสภาพบรรยากาศภายในโรงเรียนตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่สอนหนังสือ
 
            เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภาของฝรั่งเศสได้เห็นชอบกฎหมายฉบับหนึ่งที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือของเด็กนักเรียนภายในโรงเรียน  การแบนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เชื่อต่ออินเทอร์เน็ตอื่นๆ อย่างเช่นแท็บเล็ต จะมีผลบังคับใช้กับเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 3 ถึง 15 ปี หลังจากผ่านความเห็นชอบของสมาชิกรัฐสภาไปแล้วเมื่อวันจันทร์ (30 ก.ค. 2561)
ทำไมประเทศฝรั่งเศสถึงตัดสินใจออกกฎหมายห้ามมิให้นักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน  ถ้าเรามองแบบไม่ต้องคิดอะไรให้มันสลับซับซ้อนก็จะบอกว่า  มันเป็นการทำตามสัญญานโยบายช่วงการหาเสียงของประธานาธิบดีเอมมานูเอล  มาครง  เท่านั้น  แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปอีกผมว่านี่แหล่ะคือ  กฎหมายทางการศึกษาในช่วงศตวรรษที่ 21  ที่ประเทศต่าง ๆ  ในโลกนี้ควรเอาเป็นแบบอย่างโดยเฉพาะประเทศไทย

 ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ให้เหตุผลในการออกกฎหมายนี้ว่า  “ การใช้โทรศัพท์มือถือในเวลาเรียน หรือการอนุญาตให้นำโทรศีพย์มือถือมาโรงเรียนได้ เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้สุขภาพนักเรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง เนื่องจากในเวลาพักเบรกช่วงกลางวัน จากเดิมที่มักจะร่วมกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์หรือพูดคุยกันเพื่อสร้างความคุ้นเคย นักเรียนกลับเอาเวลาทั้งหมดในช่วงระหว่างวัน โฟกัสไปที่โทรศัพท์มือถือ และสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ มากกว่า”
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเคยระบุว่า การใช้สมาร์ทโฟนที่มากจนเกินไปเป็นบ่อเกิดของการสูญเสียสมาธิในระยะยาว หรือ เสี่ยงเป็นโรคสมาธิสั้น ทั้งนี้ ผลสำรวจในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา พบว่าในฝรั่งเศสจำนวนนักเรียนอายุระหว่าง 12-17 มีโทรศัพท์มือถือใช้มากถึง 93% และสิ่งที่น่าตกใจก็คือ ตลอดการเรียนการสอนในแต่ละวันยังมีนักเรียนที่ใช้สมาร์ทโฟนในการส่งข้อความหากันในหลายแอปพลิเคชั่น ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ระหว่างชั่วโมงการเรียนนักเรียนจำนวนมากไม่ตั้งใจเรียน และยังโฟกัสไปที่การใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างที่คุณครูสอน

การบังคับใช้กฎหมายกรณีการแบนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอื่น ๆ สำหรับนักเรียนในฝรั่งเศสนั้น  ผมค่อนข้างเห็นด้วยอย่างยิ่ง  เหตุผลเพราะมีผลการวิจัยต่าง ๆ ของหลายสถาบันที่ได้กล่าวถึงการติดสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตว่าก่อผลกระทบต่อสมองของมนุษย์เรา  เช่น  การศึกษาหนึ่งจากเกาหลีใต้ที่ทำการวิจัยพวกวัยรุ่นที่ติดอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน พบว่าสมองของเยาวชนเหล่านั้นมีระบบสารส่งผ่านประสาทสูงขึ้น ซึ่งทำให้เซลล์ประสาทสั่งการช้าลง ผลก็คือระดับการควบคุมและความสนใจลดลง ทำให้อ่อนแอต่อสิ่งรบกวนมากกว่าเดิม
            นอกจากนี้ อีกหนึ่งผลการศึกษาของสถาบันเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ในลอนดอน พบว่าการแบนสมาร์ทโฟนตามโรงเรียนต่างๆ ทำให้นักเรียนมีผลคะแนนการสอบดีขึ้นอย่างชัดเจน  เห็นหรือยังละครับว่าผลที่เกิดขึ้นจากการแบนสมาร์ทโฟนของนักเรียนนั้นส่งผลในทางบวกมากกว่าทางลบแน่นอน

ถ้าจะวาดภาพบรรยากาศโดยทั่วไปของการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ  ของประเทศไทยเราขณะนี้ผมว่าไม่ต่างไปจากฝรั่งเศส  บางทีอาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำไป  แล้วถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ล่ะอนาคตทาทางการศึกษา  คุณภาพทางการศึกษาอีก  30  ปีข้างหน้า  คงมองได้ไม่ยากนักว่านักเรียนของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง  ถ้าหากขืนปล่อยให้มีการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนเป็นไปอย่างเสรีแบบนี้  นักการศึกษาทั้งหลายลองทบทวนหาวิธีการแก้ปัญหากันนะครับ  ดูตัวอย่างบ้านเมืองอื่นเขาบ้าง  ก่อนที่คุณภาพการศึกษาไทยจะดิ่งลงเหวโดยไม่รู้ตัว  อยากเห็นการแก้ปัญหามุมนี้บ้างครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น