วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

อยากเห็นศรีสะเกษ...ในมุมนี้บ้าง (น้ำตาอีสาน)

อยากเห็นศรีสะเกษ...ในมุมนี้บ้าง (น้ำตาอีสาน)
โดย  นุกูลกิจ  ทวีชาติ
                “ดิน..แยกแตกระแหงต้นไม้เฉาใบแรงไม่มี  ฝืนมองไร่นาน้ำตาปรี่ ไม่มีน้ำจะทำนา โถเวรบันดาล ให้ชาวอีสานสะอื้น กลืนกล้ำอุราไร่ปอแห้งตาย โอ้นายข้าโปรดเมตตาช่วยเหลือคนจน....”  บทเพลงน้ำตาอีสาน  จากปลายปากกาของครูเพลงชลธี  ธารทอง  ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง(นักแต่งเพลงลูกทุ่ง)  ปี2542  ขับร้องโดยสายัณห์  สัญญา  ในอัลบั้มชุดที่ น้ำตาอีสาน  ดังแว่วมาจากหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน  ผมนั่งฟังเพลงนี้จนจบแล้วพยายามมองถึงภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่กับเนื้อหาของบทเพลงน้ำตาอีสาน  มันช่างสัมพันธ์กันอะไรได้ขนาดนี้  มีคำถามอยู่ว่าทำไมผมจึงต้องหยิบบทเพลงนี้ขึ้นมาเล่าเรื่องราวต่างๆให้ได้ฟังกันแล้วคนฟังจะได้อะไรจากบทเพลงนี้บ้าง? 

ช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างฤดูร้อนที่ร้อนอบอ้าวกับฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง  มันช่างเข้ากับบรรยากาศเพลงน้ำตาอีสานจริงๆ  เพลงน้ำตาอีสานเป็นบทเพลงที่มีท่วงทำนองเศร้าน่าเห็นอกเห็นใจ  ท่อนแรกของเพลงจะกล่าวถึงบรรยากาศความแห้งแล้งของพื้นที่ภาคอีสานอย่างน่าหดหู่และน่าเห็นใจว่า  “ดิน..แยกแตกระแหงต้นไม้เฉาใบแรงไม่มี  ฝืนมองไร่นาน้ำตาปรี่ ไม่มีน้ำจะทำนา...”  นี่คือภาพที่ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและบรรยากาศในฤดูแล้งของเขตพื้นที่อีสานไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าว  ดินแห้งผาก  ต้นไม้เฉาแห้ง  ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค  


ท่อนที่สองของบทเพลงน้ำตาอีสานยังคงเล่าถึงสภาพปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ตรงข้ามกันกับท่อนแรกนั่นก็คือปัญหาน้ำท่วม  “เวรสาปบาปนำ  โอ้เวรซ้ำกระหน่ำกรรมอีกหน  น้ำนาป่ารวมท่วมปี้ป่น  บาปเบื้องบนหนุนซ้ำประดัง...”  น้ำท่วมถือว่าเป็นปัญหาที่ซ้ำซากเดิมๆ  เมื่อไหร่ที่มีฝนตกจะต้องเกิดปัญหาอุทกภัยตามมาตลอด  เช่น  น้ำท่วมไร่นาชาวบ้านเสียหาย  น้ำท่วมที่อยู่อาศัยของชาวบ้านเสียหาย  แนวทางการแก้ปัญหาที่เห็นจนชินตาในแต่ละฤดูกาลก็คือจะเห็นภาพของการระบายน้ำทิ้งเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นแบบนี้แทบทุกปีแล้วภาพต่างๆเหล่านั้นก็หายไปตามสายน้ำ


ชะตากรรมของชาวบ้านก็ยงคงแบกรับปัญหาอย่างนี้เรื่อยไปเหมือนดั่งเพลงน้ำตาอีสานท่อนสุดท้ายที่ว่า  “ทนอยู่สู้ชะตาเพื่อนพี่น้องไทยข้าโปรดปราณี  ขอเพียงข้าวเกลือช่วยเหลือที่  ไม่มีแล้วข้าวจะกิน...”  การบริหารจัดการกับปัญหาภัยแล้งและปัญหาน้ำท่วมแบบยั่งยืนนั้นถือเป็นวะระที่สำคัญมาก  มีคำถามอยู่ว่าเราจะทำอย่างไรปัญหาการแล้งซ้ำซากถึงจะหายไป?  เราจะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากได้?     การกักเก็บน้ำในฤดูฝนให้ได้ปริมาณมากๆเพื่อนำไปใช้ในฤดูแล้งได้อย่างสมบูรณ์จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทาย  ผมอยากเห็นการบริหารจัดการความแห้งแล้งและการบริการจัดการน้ำของจังหวัดศรีสะเกษที่สมบูรณ์ยั่งยืนเป็นตัวอย่างของการศึกษาดูงานของคนทั่วประเทศครับ  อยากเห็นศรีสะเกษในมุมนี่บ้าง...ช่วยกันนะครับอย่าให้เป็นเหมือนเพลงน้ำตาอีสานเลยครับ    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น