อยากเห็นศรีสะเกษในมุมนี้บ้าง (ตอน...จดหมายถึงพ่อ)
โดย
นุกูลกิจ ทวีชาติ
ครอบครัวเป็นสถาบันหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสังคมไทย เพราะสถาบันครอบครัวเป็นจุดเริ่มต้นของการหล่อหลอมและบ่มเพาะชีวิต เมื่อสถาบันครอบครัวมีความมั่นคง
ภูมิต้านทานด้านต่างๆก็จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวนั้นๆ จะเห็นได้จากครอบครัวที่มีความอบอุ่นซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูกที่อาศัยอยู่ด้วยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ปัญหาต่างๆจะไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าใดนัก ตรงกันข้ามกับครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกันหรือไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้า
ปัญหาย่อมมีให้เห็นตามมาไม่มากก็น้อยโดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนที่เป็นลูก
จดหมายถึงพ่อเป็นบทเพลงหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพปัญหาของชีวิตและการอยู่ห่างไกลกันระหว่างพ่อแม่และลูก ซึ่งเพลงนี้แต่งคำร้องและขับร้องโดยคุณอิทธิพล วาทะวัฒนะหรือที่รู้จักกันในนามอี๊ด ฟุตปาธ ศิลปินที่โด่งดังจากการเล่นเพลงเปิดหมวกแถวสนามหลวงมาตั้งแต่ปี2527
เพลงจดหายของพ่อในท่อนแรกนั้นได้กล่าวถึงความเหินห่าง
ความห่างไกลและสภาพของครอบครัวที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน โดยคุณพ่อได้ไปทำงานอยู่ต่างถิ่นห่างไกลจากครอบครัว ส่งผลกระทบก็คือลูกขาดความอบอุ่นเกิดความรู้สึกคิดถึงคุณพ่อของตัวเองขึ้นมา
ดั่งเนื้อร้องที่ว่า... “ อ่านคำบรรยายจดหมายถึงพ่อ
หนูยังรอวันพ่อกลับบ้าน ก้านมะละกอที่พ่อเคยหว่าน
แยกปลูกไม่นาน ลูกโตน่าดู...” จากท่อนเพลงดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ลูกๆทุกคนนั้นต้องการความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ของตนเอง
ท่อนที่สองของบทเพลงจดหมายถึงพ่อยิ่งตอกย้ำความคิดถึงของคนที่เป็นลูก บ่งบอกถึงห้วงของระยะเวลาที่คุณพ่อได้จากบ้านไปนานๆ จนสามารถมองเห็นภาพตามเพลงได้เลยว่าสิ่งที่พ่อเคยปลูกเคยสร้างไว้นั้นเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เช่น “
กระถินริมรั้วสูงขึ้นเลยบ่า พุ่มกระดังงาเลื้อยซุ้มประตู ทานตะวันชูคอชูช่อรออยู่
คงชะเง้อดูคอยพ่อกลับมา” ลองจินตนาการตามแล้วกันว่าจากต้นกระดังงาเล็กๆแล้วเลื้อยขึ้นซุ้มประตูนั้นต้องใช้เวลานานแค่ไหน คงไม่ต่างกันกับระยะเวลาที่คุณพ่อออกจากบ้านเพื่อไปทำงานในต่างถิ่นอันแสนไกล
ซึ่งผู้เป็นแม่นั้นก็คอยอธิบายให้ลูกๆของตัวเองได้เข้าใจว่าเหตุผลที่พ่อได้จากลูกๆไปนั้นเพราะเรื่องเศรษฐกิจเกี่ยวกับฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ดั่งบทเพลงที่ร้องว่า “แม่อธิบายที่พ่อไปทำงาน
เพื่อเงินเพื่อบ้านและเพื่อลูกยา จะมีบ้านโตมีรถโก้สง่า
มีหน้ามีตาเหมือนดังใครๆ”
เพลงจดหมายถึงพ่อของอี๊ด ฟุตปาธ
สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของสังคมอย่างหนึ่งคือ ปัญหาเด็กๆที่ขาดความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่อันเนื่องมาจากภาวะของเศรษฐกิจ ความลำบาก ความยากจน ทำให้ต้องไปใช้แรงงานในต่างถิ่น แนวทางการแก้ปัญหาอีกช่องทางหนึ่งคือ การส่งเสริมให้ชุมชนมีการสร้างงานสร้างรายได้อย่างเหมาะสมเพื่อลดปัญหาการอพยพแรงงานและสร้างสถาบันครอบครัวให้มีความรักความเข้มแข็งและอบอุ่น วิธีการนี้คงจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้างเพราะเด็กๆเขาต้องการความรักความอบอุ่นในครอบครัวมากกว่าสิ่งอื่นใด เหมือนท่อนสุดท้ายของบทเพลงที่ร้องว่า “ส่วนน้องหญิงยิ่งยามเย็นค่ำ
อ้อนประจำเหตุผลไม่ฟัง ไม่เอาบ้านโตไม่เอาทุกอย่าง
จะเอาขี่หลังของพ่อคนเดียว” ช่วยกันนะครับ อยากเห็นบ้านเราในมุมนี้บ้าง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น