“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง”
(ตอน...เสียงเพลงจากเด็ก...โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง)
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
หากจะเอ่ยชื่อโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งขึ้นมา ณ
ตอนนี้
ผมเชื่อว่าหลายคนคงร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า “อ๋อ..อ๋อ..ฉันเคยเห็นๆๆๆๆ” และคงมีความรู้สึกไม่ต่างกันคืออยากจะรู้จักและไปเยือนโรงเรียนเล็กๆแห่งนี้สักครั้ง เรื่องราวการจุดประกายจากท้องทุ่งนากว้างๆมาเป็นโรงเรียนเล็กๆ เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้วิถีชีวิตจริงของตนเอง เรียนรู้รากเหง้าวัฒนธรรมของชุมชน เรียนรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรมอันดีงามที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เรื่องราวของโรงเรียนแห่งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น
โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างมีคำตอบครับ
ค่อยๆก้าวตามผมมาทีละก้าวอย่างมีสตินะครับ
โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง ตั้งอยู่ที่บ้านถาวร ตำบลถาวร
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
จังหวัดบุรีรัมย์ ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการหรือกระทรวงไหนๆของประเทศไทย แต่ผมขอใช้คำว่าโรงเรียนแห่งนี้นั้นสังกัด “ผืนแผ่นดินไทย” น่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะที่นี่เป็นที่ที่ให้วิชาชีวิตกับเด็กๆ เป็นที่ที่ให้การศึกษาแบบทางเลือกที่คุณครูลี่ของเด็กๆหรือนายพิชัย อุ้ยแหง่า
หนุ่มชาวนาวัยสี่สิบต้นๆเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา โดยต้องการที่จะให้เด็กๆในชุมชนได้หันกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในชนบทที่แสนจะงดงามและปลูกฝังให้เขาได้สืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามไม่ให้เลือนหาย ผ่านการถ่ายทอดทางดนตรีโดยไม่เก็บค่าเล่าเรียนแต่อย่างใด
แต่ต้องกรอกผ่านใบสมัครที่คุณครูลี่บอกว่าเอาแผ่นดินเป็นกระดาษเอาจอบมาเป็นปากกา นั่นหมายความว่าเด็กๆทุกคนที่จะเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างนั้นจะต้องผ่านการปลูกผักให้สวยงามเสียก่อนถึงจะมาร่ำเรียนวิชาดนตรีและวิชาอื่นๆกับคุณครูลี่ได้ ถือเป็นการวางกลยุทธิ์ในการสอนที่แยบยลมากๆ (ข้าน้อยขอคารวะ...)
โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเมื่อมีการแชร์คลิปของวงดนตรีเด็ก “โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง” เมื่อ
22 กันยายน 2559
ที่ผ่านมา เป็นคลิปที่มีเด็กๆตั้งวงดนตรีเล่นกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางทุ่งนาและธรรมชาติที่สวยงาม
มีคนเข้าไปชมเป็นหลักล้านต่างชื่นชมถึงความสามารถของเด็กๆและคุณครูผู้ฝึกสอนว่ามีแนวคิดที่สร้างสรรค์มากๆ
โดยนำเอาวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นมาประยุกต์ดัดแปลงเป็นเครื่องดนตรีให้เด็กๆได้เล่นผสมผสานกับเครื่องดนตรีสากล
ผมมีโอกาสได้เห็นความงามและความสามารถของเด็กๆเล่นดนตรีครั้งแรกที่ถนนคนเดินตลาดเซราะกราวด์ จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปลายปี59 และมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณครูลี่ถึงความเป็นมาของโรงเรียนเล็ก...ครั้งนั้นบอกได้เลยว่าผมสัมผัสได้ถึงความสุข ความตั้งใจของคุณครูลี่ที่มีกับเด็กๆและบ้านเกิดของเขาเอง แล้วผมก็มีโอกาสเข้าไปโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างครั้งแรกจริงๆ เมื่อวันที่
13 มกราคม 2561 ที่ผ่านมานี่เอง เหตุผลเพราะว่าโรงเรียนเล็ก...ได้จัดเทศกาลบทเพลงจากทุ่งวิถี ดนตรีแห่งความเรียบง่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการเรียนรู้สู่ความสุข
ความเข้าใจในธรรมชาติ และชีวิตกลางท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่
ตามรูปแบบของงานที่ว่า "นอนอย่างอุทยาน งานดนตรี
วิถีบรรพบุรุษ สู่ความสุขอันเรียบง่ายผ่านการแบ่งปัน"
ผมประทับใจเวทีวัฒนธรรมยามค่ำคืนมากๆ
ได้ชมการแสดงดนตรีจากเด็กๆโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง ที่เป็นดนตรีที่บริสุทธิ์เป็นดนตรีที่บรรเลงออกมาจากภายในจิตใจ เด็กๆเขาเล่นดนตรีอย่างมีความสุขมาก มีแววตาที่สดใส มีรอยยิ้มเสียงหัวเราะคลอเคล้าระหว่างบรรเลงดนตรีอยู่บนเวที เด็กๆเขาจะรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเองในการบรรเลงเครื่องดนตรีแต่ละชนิดแต่ละเพลงสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเป็นอย่างดี ผู้ชมก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย เป็นเวลาชั่วโมงเศษที่ผมนั่งดูเด็กๆแสดงดนตรี แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันรู้สึกเหมือนเป็นห้วงเวลาที่ผ่านไปเร็วมากๆ
แล้วเพลงสุดท้ายของเด็กๆก็มาถึง คุณครูลี่เดินออกมาด้านหน้าเวทีกล่าวขอบคุณทุกคนที่ทำให้งานวันนี้สำเร็จลงได้ด้วยต้นทุนศูนย์บาท และบอกว่า “เพลงที่จะเล่นเป็นเพลงสุดท้ายในวันนี้เป็นเพลงที่ผมแต่งขึ้นมาเป็นเพลงแรกหลังจากที่กลับมาที่นี่เพื่อสร้างโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง เพลงน้ำตาป่าเขา...เชิญรับฟังครับ” เสียงไวโอลีนบรรเลงคลอเคล้ากับเสียงกีตาร์โปร่งดังขึ้นมา เสียงพิณเริ่มดังสอดแทรกกันกับอูคูเลเล่ เสียงแคนบรรเลงรับกับการเขย่าลูกน้ำเต้า เสียงเปอร์คัทชั่นทำหน้าที่ให้จังหวะอย่างหนักแน่น พอสิ้นสุดท่อนอินโทรเด็กๆก็เปล่งเสียงร้องพร้อมๆกันอย่างมีพลังที่สดใสบริสุทธิ์ว่า...
“แดนดินถิ่นนี้นั้นมีความเป็นมา หยาดเหงื่อหยดน้ำตาที่ปู่ย่าสู้ถากถาง คุณค่าแห่งความดีวิถีอันงดงาม สืบสานให้ยาวนานเถิดลูกหลานอย่าลืมเลือน
ทุ่งกว้างภูเขาไฟเป็นหัวใจอันล้ำค่า พืชพันธุ์นานาให้ชีวาสุขสบาย ให้ผู้คนได้เลี้ยงกายให้วัวควายมีหญ้ากิน ให้นกกาได้ผกผินได้โบยบินเบิกบานใจ
โปรดเถิดผู้เมตตาให้สัตว์สาได้พักพิง ให้พออยู่ให้พอกินไม่ดิ้นรนจนทำลาย น้ำตาจากป่าเขาเพราะน้ำใจคนหล่นหาย รากเหง้าเราทำลายให้เสียดายพงษ์เผ่าพันธุ์”
พลังเสียงจากเด็กๆที่ร้องเพลงน้ำตาป่าเขาในคืนนี้ได้ส่งพลังอะไรบางอย่างไปสู่ผู้ใหญ่และสังคมอย่างมีมิติทางความคิดเป็นอย่างดี เพลงน้ำตาป่าเขาไม่ใช่เพลงตลาดที่มีมูลค่าทางการเงินมหาศาลแต่อย่างใด
แต่เป็นบทเพลงที่มีมูลค่ามหาศาลต่อวิถีชีวิตของผู้คน มีมูลค่าต่อรากเหง้าความเป็นมาของบรรพบุรุษ มีมูลค่าต่อชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียงมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน...
มีคุณค่ากับเด็กๆที่ร้องที่เล่นได้อย่างประทับใจ ผมถามคุณครูลี่ว่าได้แรงบันดาลใจจากไหนในการเขียนเพลงน้ำตาจากป่าเขา ผมได้รับคำตอบอย่างมหัศจรรย์ว่า...
“ผมเขียนเพลงนี้ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย... เกือบ20ปีที่ผมจากบ้านเพื่อค้นหาตัวเอง วันนี้ผมจะกลับบ้าน แต่ก้าวแรกที่เหยียบย่ำลงบนแผ่นดินที่ผมเคยเรียกว่าบ้าน
วันนี้มันเหลือเพียงเสามุงหลังคา
ทุ่งกว้างที่ผมเคยวิ่งเล่นเติมเต็มชีวิตในวัยเด็กได้หายไปแล้ว ผมยืนมองทุ่งกว้างด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดจนยากที่จะอธิบาย ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงของทุ่งหญ้าป่าเขาวัฒนธรรมประเพณี
ที่นับวันจะเลือนลางจนแทบจะเหลือเพียงเปลือกที่หุ้มห่อ ทุนนิยมเข้ามามีบทบาทกับชุมชน
เงินคือปัจจัยหลักที่ผู้คนโหยหาและแสวงหา จนทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันเป็นรากเหง้าของคนของสังคม
ป่าไม้ ลำธาร แผ่นดิน ถูกทำลายด้วยอำนาจของเงินตรา...
ผู้คนทิ้งบ้านเรือนมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองใหญ่ไปเป็นหุ่นยนต์ขายแรงงานรับใช้นายทุน ครอบครับแตกสลายสังคมพังทลาย พ่อไปทางแม่ไปทาง
ทิ้งเด็กๆและตายายแก่ให้เผชิญชะตาชีวิตโดยลำพังวันนี้ผมย้อนเรื่องราวภูมิปัญญาคนโบราณเพราะผมมองเห็นความงามเหล่านั้น
การรักษาฟื้นฟูรากแก้วให้กลับมาแข็งแรงเท่านั้นจึงจะทำให้ต้นไม้ยืนต้านพายุในฤดูมรสุมได้ ความหวังเล็กๆของผม โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง
จะเป็นแหล่งดำรงรักษาและส่งเสริม "ศิลปะการใช้ชีวิตบนวิถีเดิมๆ" เพื่อเป็นสมบัติให้ชนรุ่นหลังได้สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
แล้วบ้านเมืองถึงเดินหน้าต่อไปได้”
เสียงเพลงจากเด็กๆโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ลงแผ่นดินท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างจะเป็นอีกโมเดลหนึ่งของการจัดการศึกษาทางเลือก ผมคิดว่าถ้าเรามีโรงเรียนแบบนี้มีพื้นที่ดีๆแบบนี้ให้กับเด็กๆทั่วทั้งประเทศไทย ลองคิดดูนะครับว่าอนาคตของประเทศชาติของเราจะงดงามขนาดไหน ลองศึกษาความเป็นไปได้ดูนะครับระหว่างเสียงเพลงธรรมชาติกับการศึกษาทางเลือก อยากเห็นบ้านเราในมุมนี้บ้าง เจริญธรรมสำนึกดี....ครับ
Cr : (ภาพจากโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น