วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

พลังที่บริสุทธิ์

“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง”  (ตอน...พลังที่บริสุทธิ์)
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            มาส่งยิ้มเปิดรับโอกาส  มาวาดฝันด้วยกันเยาวชน  ให้บ้านเมืองเรามีแต่  ความสุขล้น  ด้วยมือคนพลเมืองดี  มาสร้างสรรค์ให้เมืองศรีสะเกษ  ดินแดนเขตสำนึกรักท้องถิ่น พลังเยาวชน  พร้อมจะโบยบิน  สร้างสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม”  นี่คือพลังเสียงจากเยาวชนหลายร้อยคนของจังหวัดศรีสะเกษที่ช่วยกันเปล่งเสียงร้องเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษ  ได้อย่างมีพลังและผมเชื่อว่าเพลงนี้จะยังก้องอยู่ในใจของเขาอีกนานแสนนานกันเลยทีเดียว  แล้วเพลงนี้มันมีที่มาที่ไปยังไงตามผมมาเลยครับ 

            เพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษเป็นแค่เพียงบทเพลงที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อใช้ในกิจกรรมเยาวชนของจังหวัดศรีสะเกษแบบเฉพาะกิจเท่านั้น โดยเพิ่ม  นุกูลกิจ  เป็นผู้ประพันธ์และมีโฟร์คซองจากวงด่านช้างมาช่วยกันบรรเลง  ซึ่งประกอบด้วยพี่ตุ๊(เพอร์คัทชั่น)  พี่ต้อม(กีตาร์โปร่ง)  พี่โต้ง(ไวโอลีน)  พี่วุธ(เมโลเดียน)และพี่เพิ่ม(กีตาร์โปร่ง-ร้องนำ)  ภายใต้โครงการพัฒนาเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ ปี3  โดยศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ  ร่วมกับมูลนิธิกัมมาจลและสำนักงานกองทันสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  ถ้าจะถามว่าเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษนั้นมีกระแสที่โด่งดังเหมือนเพลงทั่วๆไปหรือไม่  ผมตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่า “ไม่เลย”   แต่ผมคิดว่าเพลงนี้มันได้ทำหน้าที่ในการสื่อสารระหว่างเนื้อหาของบทเพลงกับกลุ่มเด็กและเยาวชนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษได้พอสมควร
   
             เมื่อวันที่2 ธันวาคม  พ.ศ.2560 ผมและน้องๆวงด่านช้างได้ไปเล่นดนตรีงานมหกรรมหนังกลางแปลง  “พลังเยาวชนพลเมืองรุ่นใหม่ทำดีเพื่อแผ่นดินเกิด”  ณ  ลานกิจกรรมโคปุระ  เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ  จ.ศรีสะเกษ  บรรยากาศของงานจัดได้ดีมากๆ  ประทับใจสุดๆก็ตอนที่เด็กและเยาวชนช่วยกันร้องเพลงที่ผมแต่งให้ได้อย่างมีพลัง   มาส่งยิ้มเปิดรับโอกาส  มาวาดฝันด้วยกันเยาวชน  ให้บ้านเมืองเรามีแต่  ความสุขล้น  ด้วยมือคนพลเมืองดี ....”  อย่างน้อยเด็กๆก็ได้ความภาคภูมิใจล่ะ  ว่าครั้งหนึ่งเขาคือพลเมืองดีศรีสะกษนะ  เขาคือผู้ที่มีส่วนสร้างสรรค์กิจกรรมสำนึกรักท้องถิ่นในบ้านเกิดของตัวเองและได้ทำอะไรให้กับส่วนรวมในช่วงที่เป็นเด็กและเยาวชนซึ่งน้อยคนนักที่จะได้รับโอกาสดีๆแบบนี้จากผู้ใหญ่ใจดีในสังคมปัจจุบัน 
เด็กๆยังคงร้องเพลงต่อไปจนมาถึงท่อนแยกของเพลง “มาเปิดใจรักฮักศรีสะเกษ  เพราะเราเป็นคน
รุ่นใหม่  จะอยู่แห่งไหนก็รักศรีสะเกษ  ก็บ้านเรามีแต่คนมีน้ำใจ  ไม่เคยเห็นแก่ตัว”  ในท่อนฮุคนี้เด็กและเยาวชนเขาจะได้มุมมองใหม่ๆ นั่นก็คือ มุมมองของคนรุ่นใหม่อย่างพวกเขาที่จะเปิดหัวใจเรียนรู้การมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรักบ้านเกิดของตัวเอง  การกลับมามองบ้านเกิดในฐานะพลังเยาวชนรุ่นใหม่ที่บริสุทธิ์อย่างคนที่มีน้ำใจคนที่ไม่เห็นแก่ตัวถือว่าคุ้มค่ามากกับประโยคของเพลง  แล้วมาจบลงที่ท่อนสุดท้ายของเพลงที่ว่า  “มาส่งยิ้มเปิดรับวันใหม่  ด้วยหัวใจรักและชื่นบาน  เมื่อเยาวชนจับมือประสาน  เป็นพลังในการพัฒนาศรีสะเกษบ้านเรา”

            หลังจากกิจกรรมโครงการเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ  ปี3  ผ่านไปได้ไม่นานผมมีโอกาสได้พูดคุยกันกับน้องพิมพ์  น.ส.พิมพ์จันทร์  ชอบชื่น  นักเรียนชั้นม.6/5  โรงเรียนปรางค์กู่  หนึ่งในเยาวชนกลุ่มSpykidsเยาวชนบ้านขี้นาค  ต.ตูม  อ.ปรางค์กู่  จ.ศรีสะเกษ  น้องเขาเล่าให้ผมฟังว่าเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษมีส่วนช่วยให้เขารู้สึกรักบ้านเกิดขึ้นมา  อยากที่จะทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม  มีความตระหนักถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้สามารถช่วยขับเคลื่อนและแก้ปัญหาสังคมได้  สร้างจิตสำนึกให้เราเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว  น้องพิมพ์ยังบอกอีกว่าเวลาร้องเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษแล้วรู้สึกฮึกเหิม  มีกำลังใจ  ดนตรีโฟร์คซองวงด่านช้างก็เล่นสนุกดี  ร้องเพลงเข้ากับบรรยากาศของงาน  มีมุกตลกให้ได้สนุกสนานขำขันบางช่วงบางตอนและเพลงที่นำมาร้องก็เข้ากับบรรยากาศของงานค่ะ


            คำถามสุดท้ายที่คุยกับน้องพิมพ์  คือ  การจัดโครงการในลักษณะนี้มีประโยชน์กับเด็กๆและเยาวชนอย่างไรบ้าง? และให้เชิญชวนเพื่อนๆเยาวชนมาร่วมโครงการ...  น้องพิมพ์บอกเลยว่าเป็นโครงการและกิจกรรมที่ดีมากๆเลยค่ะ  เพราะว่า  ทำให้เราได้รู้จักตัวเองและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นค่ะ  ได้พัฒนาทักษะต่างๆมากมาย  ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนด้วยค่ะ  สุดท้ายก็อยากจะเชิญชวนให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามาทำกิจกรรมดีๆแบบนี้เพราะว่าโอกาสที่เราจะได้ทำสิ่งดีๆแบบนี้นั้นหายากมาก  และยังทำให้รู้สึกรักบ้านเกิดซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้เราเติบโตขึ้นเป็นอนาคตของชาติที่ดีได้.....ครับอยากเห็นเด็กและเยาวชนของจังหวัดศรีสะเกษในทุกพื้นที่อย่างมุมนี้บ้างครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น