อยากเห็นศรีสะเกษ...ในมุมนี้บ้าง (มุม...อีสานบ้านเฮา)
โดย
นุกูลกิจ ทวีชาติ
“หอมดอกผักกะแยง
ยามฟ้าแดงค่ำลงมา แอ๊บๆ เขียดจะนา
ร้องยามฟ้าฮ้อนหวนๆ เขียดโม้เขียดขาคำ เหมือนหมอลำพากันม่วน เมฆดำลอยปั่นป่วน
ฝนตกมาสู่อีสาน” เสียงเพลงอีสานบ้านเฮา จากผลงานปลายปากกาของครูเพลงพงษ์ศักดิ์ จันทรุขา
ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง – ประพันธ์เพลง) ประจำปี2557 ขับร้องโดยเทพพร เพชรอุบล
ดังแว่วมาจากวิทยุทรานซิสเตอร์ของลุงสมที่เป็นภารโรงของโรงเรียน ในขณะที่ทุกคนกำลังจดจ่ออยู่กับการซ่อมโต๊ะเก้าอี้เก่าๆไว้ให้นักเรียนใช้ในปีการศึกษาหน้าที่จะมาถึง ณ วินาทีนั้นกิจกรรมทุกอย่างหยุดชะงักไปชั่วครู่เหมือนกำลังถูกมนต์สะกดทุกคนหยุดภารกิจทุกอย่างเพื่อฟังสาระจากเพลงอย่างตั้งใจ “ม่วนเอยม่วนเสียงกบร้องอ๊บๆกล่อมลำเนา...”
ระยะเวลา 3.26 วินาที ของการฟังเพลงอีสานบ้านเฮา ด้วยจังหวะที่สนุกสนาน ทำนองที่ไพเราะประกอบกับการใช้ภาษาของคำร้องที่งดงาม ทำให้อดคิดถึงภาพบรรยากาศและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ภาคอีสานเมื่อประมาณ 45 ปีที่ผ่านมาไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีการทำไร่ทำนา หากเรามองย้อนกลับไปตามระยะเวลาของอายุเพลงอีสานบ้านเฮาแล้วพบว่า
คนอีสานดั้งเดิมนั้นประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำไร่ทำนาโดยอาศัยควายเป็นแรงงานหลักในการไถนา อาศัยแรงงานจากคนในครอบครัวและญาติพี่น้องในการปักดำ ทุกคนมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายอยู่กินแบบพอเพียงพึ่งพาอาศัยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในการดำรงชีวิต มีพืชผักต่างๆเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมากมายให้เลือกรับปะทานกันตามฤดูกาล มีกุ้ง หอย ปู ปลากินเป็นอาหาร มีกบ เขียดร้องระงมตามท้องไร่ท้องนาห้วยหนองคลองบึงในฤดูฝน นี่คือธรรมชาติแห่งบ้านนาในอดีต
ภาพความทรงจำในอดีตที่สวยสดงดงามเหมือนเพลงอีสานบ้านเฮาบัดนี้ได้เลือนหายไปจากวิถีชีวิตของชาวนาอีสานไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นผักกะแยง ผักอีฮีน ตอนนี้ไม่มีในทุ่งนาแล้วเพราะฤทธิ์ของยาฆ่าหญ้า
ที่ชาวนาพากันฉีดพ่น กบ เขียดจะนา เขียดโม่และเขียดขาคำก็ไม่มีร้องให้ได้ยินหลังจากฝนตกเพราะพิษของยาฆ่าแมลงไปทำลายเสียจนหมดสิ้น
ส่วนควายทุยก็ไม่มีให้เล็มหญ้าอ่อนตามคันนาอีกต่อไปแล้ว
เพราะมีรถไถนาเข้ามาแทนที่เรียบร้อย ธรรมชาติของบ้านนาฝนตกมาก็ไม่มีของให้กินอีกต่อไป ต้องอาศัยตลาดหรือรถพุ่มพวงมาจอดถึงหน้าบ้านเป็นหลักแล้วก็ใช้เงินซื้อทุกอย่างที่ต้องการ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ความมั่นคงทางอาหารของคนอีสานหมดไปโดยสิ้นเชิง
“มาเด้อมาซอยกันก่อ อีสานน้อ...บ้านของเฮา” เสียงเพลงท่อนสุดท้ายจบลงพร้อมกับคำถามตามมาอีกมากมาย เช่น ทำอย่างไรผักกะแยง ผักเม็ก
ผักกะโดน ผักอีฮีน ปลา กบ เขียดจะนา
เขียดขาคำ ฯลฯ จะกลับคืนมาสู่แผ่นดินอีสานอีก?
ทำอย่างไรความมั่นคงทางอาหารของเราจะกลับคืนมาเหมือนในอดีต? ทำเช่นไรความอุดมสมบูรณ์ของทุ่งนาบ้านเราจะกลับคืนมาเหมือนเดิ
ม?
คำตอบเหล่านั้นคงอยู่ที่ชาวนาอีสานทุกคนแล้วล่ะครับ เพราะว่าบทเรียนของการใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า
และยาฆ่าแมลง สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเป็นตัวการทำลายความอุดมสมบูรณ์ของสรรพสิ่งทั้งหลาย มีทางเดียวที่จะทำให้บรรยากาศเหมือนดั่งเพลงอีสานบ้านเฮาเมื่อประมาณ 45 ปี กลับคืนมาได้คือ หยุดการใช้สิ่งเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง...ผมอยากเห็นชาวนาจังหวัดศรีสะเกษในมุมนี้บ้างครับ มุมที่มีบรรยากาศเหมือนเพลงอีสานบ้านเฮา ขอแค่หมู่บ้านละ 1
ครัวเรือนนำร่องครับ
เยี่ยม
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ