“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง” เมนูไข่...อร่อยแท้อยากกิน
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
ถ้าพูดถึงรายการอาหารที่คนทั่วไปรู้จักและนิยมบริโภคกันตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงตลอดไปจนถึงคนแก่คนเฒ่าคนชราแล้วคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าไข่คือวัตถุดิบลำดับต้นๆทีคนเรานำมาใช้ประกอบอาหารและรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ถ้าพูดถึงเมนูอาหารที่เกี่ยวกับไข่ล่ะคุณคิดถึงเมนูอะไรบ้าง
เมนูไข่ไม่ได้ให้คุณค่าทางอาหารที่เป็นโปรตีนเท่านั้นแต่เมนูไข่ยังให้ความสุขทางใจแก่ทุกคนและให้ปรัชญาการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงอีกด้วย เชื่อหรือไม่เชื่อเดี๋ยวผมจะเล่าสู่ฟัง
เมนูไข่เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับสุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 คือลำดับที่48
โดยพระองค์ทรงประพันธ์ทำนองและสมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ทรงประพันธ์เนื้อร้อง บทเพลงเมนูไข่นี้ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันที่6 พฤษภาคม พ.ศ.2538 เพื่อพระราชทานเป็นของขวัญวันพระราชสมภพ ครบ 72 พรรษา ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ด้วยพระองค์ทรงรำลึกได้ว่าสมเด็จพระเชษฐาภคินี โปรดเสวยพระกระยาหารไข่ ทำให้ทรงเกิดแรงบันดาลพระราชหฤทัยให้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ขึ้น กอรปกับพระองค์ทรงพบโคลงสี่ “เมนูไข่”
ที่สมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ทรงนิพนธ์ไว้เมื่อปีพ.ศ.2518
เพลงเมนูไข่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ได้โปรดพระราชทานให้พลเรือตรีหม่อมหลวงอัศนี ปราโมช
นำไปเรียบเรียงเสียงประสาน
เพื่อให้วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์
บรรเลงและขับร้องในงานพระราชทานเลี้ยงฉลองสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิราชนครินทร์ ณ ศาลาดุสิดาลัย
เมื่อวันที่8 พฤษภาคม พ.ศ.2538
บทเพลงพระราชนิพนธ์เมนูไข่มีความงดงามที่น่าประทับใจของทำนองเพลงที่มีลักษณะสั้นๆ กระชับ
ฟังแล้วเกิดความสุขสนุกสนาน
โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆคือ
ส่วนของทำนองหลักในท่อนแรกของเพลงกับส่วนของทำนองท่อนแยกในท่อนที่สองของเพลงซึ่งมีการบรรเลงสลับกันไปมา ความพิเศษของเมนูไข่อีกอย่างหนึ่งคือ
ฟังเพลงแค่รอบเดียวก็สามารถจำทำนองเพลงได้ซึ่งวิธีการคิดทำนองแล้วสามารถทำให้คนฟังคล้อยตามได้ในเวลาอันสั้นแบบนี้หาได้ยากมากสำหรับคนทั่วๆไป ซึ่งถือได้ว่าพระองค์ทรงมีความเป็นอัจฉริยะภาพทางดนตรี เป็นอัครศิลปินและคีตราชันย์โดยแท้จริง
เนื้อร้องของเพลงเมนูไข่เป็นลักษณะโคลงสี่ที่ใช้ภาษาแบบเรียบง่ายเข้าใจในสำนวนได้ไม่ยากนักสอดรับกับทำนองเพลงอย่างเหมาะสม สามารถร้องตามได้อย่างเพลิดเพลิน มาดูความเป็นกวีของเนื้อร้องบทเพลงเมนูไข่กันครับ
“เมนูไข่เมนูไข่
อร่อยแท้อยากกิน
เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน
ไข่เค็มไข่ลวกทั้ง
ไข่หวาน
กับไข่ต้มสุกนาน
เยี่ยวม้า
เมนูไข่เมนูไข่
อร่อยแท้อยากกิน
ไข่ตุ๋นรสเยี่ยมปานรสทิพย์
ไข่ไก่โอ้เอี่ยมอ้า
อร่อยแท้อยากกิน
เมนูไข่บทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับสุดท้าย(48)
มีคุณค่ามากกว่าเมนูไข่ธรรมดาทั่วๆไปเพราะเมนูไข่จานนี้แฝงไว้ซึ่งปรัชญาการใช้ชีวิตของคนเราให้มีความพอดี เรียบง่าย
มีคุณค่า
อยู่อย่างพอเพียงตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ทรงตรัสไว้ ถ้าถามว่าเราได้อะไรจากบทเพลงเมนูไข่บ้าง ผมคนหนึ่งล่ะที่ตอบได้อย่างเต็มปากว่า ผมมองเห็นความเรียบง่ายของการใช้ชีวิต ความไม่ฟุ้งเฟ้อ การไม่ทำอะไรเกินตัวรู้จักความพอประมาณและการทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์และมีคุณค่าทั้งกับตัวเองและส่วนรวม
สรุปว่าเมนูไข่จานนี้อร่อยมากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อย่าลืมนำสิ่งที่ได้จากเมนูนี้ไปต่อยอดกันนะครับ ผมคิดว่าคงจะเกิดอะไรขึ้นอีกหลายอย่าง เพราะบทเพลงเมนูไข่กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านที่ทรงตรัสสอนคนไทยทุกคนว่า “ให้รู้จักพอประมาณ รู้จักการสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นผู้ที่มีเหตุผล มีความรู้
มีคุณธรรม” ความสุขของชีวิตก็อยู่ที่นี่แหล่ะครับ.....เมนูไข่