วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ปรากฎการณ์...แสงสุดท้าย

“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง”  ปรากฎการณ์...แสงสุดท้าย
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            ถ้าจะถามถึงปรากฎการณ์ทางธรรมชาติแล้วหลายๆคนคงพอจะคาดเดาได้ว่ามันมีปรากฎการณ์อะไรบ้างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ของเรา  แต่ถ้าจะถามว่ามีปรากฎการณ์อะไรบ้างที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นแล้วได้รับการยอมรับจากสังคมในภาพรวมนี่สิมันหาคำตอบได้ยากกว่า  เมื่อประมาณหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาได้เกิดปรากฎการณ์หนึ่งขึ้นมาบนบ้านเรา  ผมเรียกมันว่า  “ปรากฏการณ์แสงสุดท้าย”

            ปรากฎการณ์แสงสุดท้ายผมได้มาจากชื่อเพลงเพลงหนึ่งของวงดนตรีประเภทร็อกสัญชาติไทยที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นของบ้านเรานั่นคือวงบอดี้สแลม  โดยมีอาทิวราห์  คงมาลัย  เป็นนักร้องนำ  เสน่ห์ของวงดนตรีประเภทนี้นั้นอยู่ตรงแนวเพลงที่บรรเลงอย่างหนักแน่นด้วยโทนเสียงของกลองชุด  เบส  กีตาร์ไฟฟ้าเป็นหลักด้วยเสียงที่ดังเร้าใจจึงทำให้แนวเพลงร็อกเข้าไปอยู่ในใจของวัยรุ่นได้ไม่ยากนัก  เช่นเดียวกับเพลงแสงสุดท้ายที่ผมกำลังพูดถึง
            เพลงแสงสุดท้ายถ้าเราฟังแบบผิวเผินก็จะมีคำถามในใจว่า  เพลงอะไรก็ไม่รู้ทำไมเสียงดังแสบแก้วหูเหลือเกิน  ไหนจะเสียงเบสที่ดังขึ้นต้นลอยมาแล้วสอดประสานรับกันกับกลองชุดและกีตาร์ไฟฟ้าก่อนที่นักร้องจะร้องรับด้วยเทคนิคที่ทำให้มีเสียงแหบนิดๆว่า  รอนแรมมาเนิ่นนานเพียงหนึ่งใจ กับทางที่โรยเอาไว้ด้วยขวากหนาม ...ชีวิตถ้าไม่ยากเย็นขนาดนั้น  สองมือจะมีเรี่ยวแรงขนาดไหน  แต่หัวใจของคน ยังยืนยันจะไม่ถอดใจ...  ในค่ำคืนที่ฟ้านั้นไม่มีดาวอยู่ตรงนี้ แต่ฉันยังคงก้าวไปยังคงมีรักแท้เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง…  ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไร  จะไปจนถึงแสงสุดท้าย”

            ลองคิดดูเล่นๆนะครับว่าถ้าเราลองเอาเนื้อร้องทั้งหมดของเพลงแสงสุดท้ายจากวงบอดี้สแลมมากางออกแล้วเราจะเห็นอะไรในนั้นบ้าง?  สิ่งที่ผมสามารถสัมผัสได้และเกิดแง่คิดเกี่ยวกับเพลงแสงสุดท้ายนั้นสามารถแบ่งออกเป็น  ประเด็นหลักๆ  คือ  หนึ่งการดำเนินชีวิตของคนเรานั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปมันจะต้องมีขวากหนามเจออุปสรรคต่างๆบ้าง  สองอุปสรรคหรือขวากหนามแหลมคมที่คอยทิ่มแทงเรานั้นมันจะทำให้เราเป็นคนที่มีความเข้มแข็งขึ้น  สามความสำเร็จใดๆก็ตามย่อมเกิดขึ้นได้จากความความตั้งใจและไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆทั้งสิ้น  และประเด็นสุดท้ายการใช้ชีวิตของคนเรานั้นจะต้องมีจุดหมายมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเดินตามความฝันนั้นด้วยความมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จ ขอเพียงแค่มีหัวใจที่หนักแน่นและไม่ยอมแพ้  เหมือนวลีหนึ่งที่ว่า ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไรจะไปจนถึงแสงสุดท้าย”

            ปรากฎการณ์แสงสุดท้ายยังไม่จบลงเพียงเท่านี้เมื่อนายอาทิวราห์  คงมาลัย  หรือตูนร์บอดี้สแลม  ได้คิดทำโครงการก้าวคนละก้าว  วิ่งด้วยระยะทาง  2,191  กม.  จากสุดเขตแดนใต้  อำเภอเบตง  จังหวัดยะลา  ไปจนถึงเหนือสุดแดนสยาม  อำเภอแม่สาย  จังหวัดเชียงราย  เพื่อรับบริจาคเงินจำนวน  700 ล้านบาทจากคนไทยนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์บริจาคให้กับ  11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ  ผ่านมา  13 วัน  ยอดบริจาคอยู่ที่  200  ล้านบาท  นี่คือปรากฎการณ์แสงสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเพื่อนมนุษย์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  ปรากฏการณ์นี้สะท้อนอะไรบ้างนั้นผมไม่รู้  ผมไม่สามารถตอบแทนใครได้  ผมรู้เพียงว่าการคิดดีและการทำดีเพื่อสังคมนั้นหายากขึ้นทุกวัน  แต่ก็ยังมีให้เห็นพอได้ชื่นใจอยู่บ้างทั้งที่เห็นออกในสื่อและไม่ออกสื่อก็ตาม 

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่คิดดีทำดีนะครับ  สุดท้ายอยากจะบอกว่าปรากฎการณ์แบบนี้มันบอกให้เรารู้ว่าสังคมไทยยังต้องการคนประเภทนี้อยู่อีกเยอะมากมาก  ใครที่พอมีบ้างที่จะแบ่งปันสังคมได้ก็เชิญลงมือเลยครับ  มา สร้างสิ่งดีๆตามกำลังของตนกันครับ