วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

โฟร์คซองเพื่อความรัก "ฮักแพง@กลันทา#1"

มหกรรมการประกวดดนตรีโฟล์คซอง  เพื่อ...ความรัก  “ฮักแพง  @กลันทาพิท#1
ณ  โรงเรียนกลันทาพิทยาคม  สพม.32  อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์

หลักเกณฑ์การประกวดวงดนตรี (โฟร์คซอง)
วันพุธ  ที่14  เดือนกุมภาพันธ์  พ.ศ.2561  เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ณ โรงเรียนกลันทาพิทยาคม  อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
1. คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประกวด
1.1 ผู้เข้าแข่งขันต้องเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษา ได้ทั้งระดับ ม.ต้นหรือระดับ ม.ปลาย
1.2 ผู้เข้าแข่งขัน ต้องเป็นนักเรียน สังกัดสถานศึกษาของภาครัฐหรือเอกชน และอยู่ในสถาบันเดียวกันเท่านั้น
1.3 ผู้เข้าแข่งขันต้องมีรายชื่อตามใบสมัครของวงที่ยื่นสมัครเข้าแข่งขันนั้น ๆ
1.4 หากสมาชิกคนใดมีคุณสมบัติไม่ครบตามกำหนด คณะกรรมการจัดประกวดการแข่งขันหรือคณะกรรมการผู้ตัดสินมีสิทธิ์ตัดสิทธิ์จากการประกวดแข่งขันทันที
1.5 ทุกโรงเรียนสามารถส่งวงเข้าประกวดได้เพียง 1 วง เท่านั้นและต้องมีลายเซ็นครูผู้ควบคุมรับรองเอกสารใบสมัคร
1.6 วงดนตรี 1 วงจะต้องประกอบด้วยสมาชิกตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 5 คน
2. กฎกติกาข้อบังคับในการประกวด
2.1 การแต่งกายของผู้เข้าประกวด
- การแต่งกายเป็นชุดนักเรียนเท่านั้น ห้ามใส่รองเท้าแตะขึ้นเวทีเด็ดขาด
2.2. เครื่องดนตรี
- ทุกวงจะต้องนำเครื่องดนตรีทุกชนิดที่ใช้ในการแสดงมาเอง เช่น กีต้าร์โปร่ง  เบสโปร่ง ฯลฯ ส่วนอุปกรณ์ชนิดอื่น ทางผู้จัดงานจะเตรียมให้ เช่น  ตู้แอมป์กีต้าร์  คาฮอง  บองโก้

2.3 ใช้เพลงประกวดจำนวน 2 เพลง คือ
1) เพลงเลือกอิสระตามความถนัด 1 เพลง
 2) เพลงบังคับเลือก 1 เพลง โดยเลือกจากเพลงที่คณะกรรมการจัดงานกำหนดมาให้  จำนวน  เพลง และต้องนำมา  Cover  ใหม่ ได้แก่
-เพลงทะเลใจ  ศิลปินวงคาราบาว
-เพลงเราและนาย  ศิลปินเสก  โลโซ
-เพลงบุญผลา  ศิลปินไมค์  ภิรมย์พร
2.4 ระยะเวลา
- ใช้เวลาในการประกวดวงละไม่เกิน 15 นาที รวม sound check ด้วย
- ใช้เวลาเกินกำหนดหัก 10 คะแนน
3. หลักฐานการสมัคร
3.1. ใบสมัคร
3.2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เข้าประกวด (พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)
3.3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ควบคุมทีม (พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)
4. การรับสมัคร
4.1. เริ่มรับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันพุธ ที่ ๓๑ มกราคม  พ.ศ. 2561 ในวันและเวลาราชการ
4.2. ส่งใบสมัครได้ที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรียนกลันทาพิทยาคม ตำบลกลันทา อำเภอเมือง  จังหวัดบุรีรัมย์  31000  / Email  :  perm2519@gmail.com 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการ
คุณครูนุกูลกิจ  ทวีชาติ /โทรศัพท์ 087- 2453709
คุณครูชัชวาล  ประทุมสินธุ์ / โทรศัพท์  088 – 5140094
คุณครูฎารัตน์  ชายเมือง / โทรศัพท์  092 - 3940666
5. กำหนดการประกวด
5.1 วันพุธ ที่ 14 กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2561 เวลา 13.๐๐ น.เป็นต้นไป ณ สวนป่าโรงเรียนกลันทาพิทยาคม
5.2 รายงานตัวลงทะเบียนเวลา 11.00 – 12.00 น.
6. เกณฑ์การตัดสิน
6.1 นักร้อง (น้ำเสียง จังหวะ ทำนอง อักขระ)            20 คะแนน
6.2 เทคนิคการเล่นดนตรี                                       20 คะแนน
6.3 ความสมดุลของเสียง (Balance)                        20 คะแนน
6.4 ภาพรวมของการแสดง ความพร้อมเพรียง           20 คะแนน
6.5 ความคิดสร้างสรรค์                                         20 คะแนน
รวม ๑๐๐ คะแนน
*ผลการตัดสินของคณะกรรมการให้ถือเป็นที่สิ้นสุด*
7. รางวัลในการประกวด
7.1. รางวัลชนะเลิศ
-ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
-เงินรางวัลจำนวน 3,000 บาท
-เกียรติบัตรตามรายชื่อผู้เข้าประกวด/ ผู้ฝึกสอน
7.2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑
-ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
-เงินรางวัล 2,000 บาท
-เกียรติบัตรตามรายชื่อผู้เข้าประกวด/ ผู้ฝึกสอน
7.3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒
-ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
-เงินรางวัล ๑,๐๐๐ บาท
-เกียรติบัตรตามรายชื่อผู้เข้าประกวด/ ผู้ฝึกสอน
๗.๔. รางวัลชมเชย 5 รางวัล
-เกียรติบัตรตามรายชื่อผู้เข้าประกวด/ ผู้ฝึกสอน
8.  ค่าสมัคร
-  ค่าสมัครในการประกวดแข่งขัน  100  บาท
-  ค่ามัดจำ  100  บาท  (รับคืนในวันที่มารายงานตัวเข้าประกวดแข่งขัน)


หมายเหตุ  รับจำนวนจำกัดเพียง  วงเท่านั้น  (โดยพิจารณาจากประทับตราไปรษณีย์หรือวันรับสมัครก่อน-หลัง)










แบบตอบรับ
การประกวดดนตรีโฟล์คซอง  เพื่อ...ความรัก  “ฮักแพง  @กลันทาพิท#1
วันพุธ  ที่14  เดือนกุมภาพันธ์  พ.ศ.2561  เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ณ  โรงเรียนกลันทาพิทยาคม  สพม.32  อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์
โรงเรียน..........................................................................................................................................................
O ไม่เข้าร่วมประกวด
O เข้าร่วมประกวด
1. ข้าพเจ้า..........................................................................................................................................................................
2. ที่อยู่..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
3. โทรศัพท์..........................................................................................................................................................................
ขอสมัครแข่งขันการประกวดดนตรีโฟล์คซอง  เพื่อ...ความรัก  “ฮักแพง  @กลันทาพิท#1
ส่งแข่งในนามโรงเรียน....................................................................................................................................................................
ข้าพเจ้าได้อ่านหลักเกณฑ์การแข่งขัน และทราบตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นอย่างดีแล้ว พร้อมยินดี
ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทุกประการ
                                                                        ลงชื่อ........................................................
        (.......................................................)
   ครูผู้ควบคุม
วันที่.......................................
ใบสมัคร
การประกวดดนตรีโฟล์คซอง  เพื่อ...ความรัก  “ฮักแพง  @กลันทาพิท#1
วันพุธ  ที่14  เดือนกุมภาพันธ์  พ.ศ.2561  เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ณ  โรงเรียนกลันทาพิทยาคม  สพม.32  อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์
โรงเรียน.........................................................................ชื่อวง..........................................................................
เบอร์โทรศัพท์.....................................................เบอร์โทรสาร.........................................................................
มีความประสงค์เข้าร่วมการประกวดดนตรีโฟล์คซอง  เพื่อ...ความรัก  “ฮักแพง  @กลันทาพิท#1
รายชื่อนักแสดง
1) .............................................................................................ตำแหน่ง..................................
2) ............................................................................................ตำแหน่ง....................................
3) .............................................................................................ตำแหน่ง...................................
4) .............................................................................................ตำแหน่ง...................................
5) .............................................................................................ตำแหน่ง...................................
รายชื่อผู้ควบคุมและฝึกซ้อมการแสดง
1)........................................................................................เบอร์โทรศัพท์.......................................................
2)........................................................................................เบอร์โทรศัพท์.......................................................
ลงชื่อ........................................................
 (.................................................................)
ครูผู้ควบคุม

หมายเหตุ  แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนนักดนตรี/ผู้ฝึกสอน  คนละ 1 ชุด

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

เสียงเพลงจากเด็ก...โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง

“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง”  (ตอน...เสียงเพลงจากเด็ก...โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง)
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            หากจะเอ่ยชื่อโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งขึ้นมา  ณ  ตอนนี้  ผมเชื่อว่าหลายคนคงร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า “อ๋อ..อ๋อ..ฉันเคยเห็นๆๆๆๆ”  และคงมีความรู้สึกไม่ต่างกันคืออยากจะรู้จักและไปเยือนโรงเรียนเล็กๆแห่งนี้สักครั้ง  เรื่องราวการจุดประกายจากท้องทุ่งนากว้างๆมาเป็นโรงเรียนเล็กๆ  เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้วิถีชีวิตจริงของตนเอง  เรียนรู้รากเหง้าวัฒนธรรมของชุมชน  เรียนรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรมอันดีงามที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ  เรื่องราวของโรงเรียนแห่งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างมีคำตอบครับ  ค่อยๆก้าวตามผมมาทีละก้าวอย่างมีสตินะครับ

            โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง  ตั้งอยู่ที่บ้านถาวร  ตำบลถาวร  อำเภอเฉลิมพระเกียรติ  จังหวัดบุรีรัมย์  ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการหรือกระทรวงไหนๆของประเทศไทย  แต่ผมขอใช้คำว่าโรงเรียนแห่งนี้นั้นสังกัด “ผืนแผ่นดินไทย”  น่าจะเหมาะสมที่สุด  เพราะที่นี่เป็นที่ที่ให้วิชาชีวิตกับเด็กๆ  เป็นที่ที่ให้การศึกษาแบบทางเลือกที่คุณครูลี่ของเด็กๆหรือนายพิชัย  อุ้ยแหง่า  หนุ่มชาวนาวัยสี่สิบต้นๆเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา  โดยต้องการที่จะให้เด็กๆในชุมชนได้หันกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในชนบทที่แสนจะงดงามและปลูกฝังให้เขาได้สืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามไม่ให้เลือนหาย  ผ่านการถ่ายทอดทางดนตรีโดยไม่เก็บค่าเล่าเรียนแต่อย่างใด  แต่ต้องกรอกผ่านใบสมัครที่คุณครูลี่บอกว่าเอาแผ่นดินเป็นกระดาษเอาจอบมาเป็นปากกา  นั่นหมายความว่าเด็กๆทุกคนที่จะเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างนั้นจะต้องผ่านการปลูกผักให้สวยงามเสียก่อนถึงจะมาร่ำเรียนวิชาดนตรีและวิชาอื่นๆกับคุณครูลี่ได้  ถือเป็นการวางกลยุทธิ์ในการสอนที่แยบยลมากๆ  (ข้าน้อยขอคารวะ...)

            โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเมื่อมีการแชร์คลิปของวงดนตรีเด็ก  “โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง”  เมื่อ  22  กันยายน  2559  ที่ผ่านมา  เป็นคลิปที่มีเด็กๆตั้งวงดนตรีเล่นกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางทุ่งนาและธรรมชาติที่สวยงาม  มีคนเข้าไปชมเป็นหลักล้านต่างชื่นชมถึงความสามารถของเด็กๆและคุณครูผู้ฝึกสอนว่ามีแนวคิดที่สร้างสรรค์มากๆ  โดยนำเอาวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นมาประยุกต์ดัดแปลงเป็นเครื่องดนตรีให้เด็กๆได้เล่นผสมผสานกับเครื่องดนตรีสากล
            ผมมีโอกาสได้เห็นความงามและความสามารถของเด็กๆเล่นดนตรีครั้งแรกที่ถนนคนเดินตลาดเซราะกราวด์  จังหวัดบุรีรัมย์  เมื่อปลายปี59  และมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณครูลี่ถึงความเป็นมาของโรงเรียนเล็ก...ครั้งนั้นบอกได้เลยว่าผมสัมผัสได้ถึงความสุข  ความตั้งใจของคุณครูลี่ที่มีกับเด็กๆและบ้านเกิดของเขาเอง  แล้วผมก็มีโอกาสเข้าไปโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างครั้งแรกจริงๆ  เมื่อวันที่  13  มกราคม  2561 ที่ผ่านมานี่เอง เหตุผลเพราะว่าโรงเรียนเล็ก...ได้จัดเทศกาลบทเพลงจากทุ่งวิถี  ดนตรีแห่งความเรียบง่าย  ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการเรียนรู้สู่ความสุข ความเข้าใจในธรรมชาติ และชีวิตกลางท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่  ตามรูปแบบของงานที่ว่า  "นอนอย่างอุทยาน งานดนตรี วิถีบรรพบุรุษ สู่ความสุขอันเรียบง่ายผ่านการแบ่งปัน"
    
ผมประทับใจเวทีวัฒนธรรมยามค่ำคืนมากๆ ได้ชมการแสดงดนตรีจากเด็กๆโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง  ที่เป็นดนตรีที่บริสุทธิ์เป็นดนตรีที่บรรเลงออกมาจากภายในจิตใจ  เด็กๆเขาเล่นดนตรีอย่างมีความสุขมาก  มีแววตาที่สดใส  มีรอยยิ้มเสียงหัวเราะคลอเคล้าระหว่างบรรเลงดนตรีอยู่บนเวที  เด็กๆเขาจะรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเองในการบรรเลงเครื่องดนตรีแต่ละชนิดแต่ละเพลงสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเป็นอย่างดี  ผู้ชมก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย  เป็นเวลาชั่วโมงเศษที่ผมนั่งดูเด็กๆแสดงดนตรี  แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันรู้สึกเหมือนเป็นห้วงเวลาที่ผ่านไปเร็วมากๆ
 
แล้วเพลงสุดท้ายของเด็กๆก็มาถึง  คุณครูลี่เดินออกมาด้านหน้าเวทีกล่าวขอบคุณทุกคนที่ทำให้งานวันนี้สำเร็จลงได้ด้วยต้นทุนศูนย์บาท  และบอกว่า “เพลงที่จะเล่นเป็นเพลงสุดท้ายในวันนี้เป็นเพลงที่ผมแต่งขึ้นมาเป็นเพลงแรกหลังจากที่กลับมาที่นี่เพื่อสร้างโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง  เพลงน้ำตาป่าเขา...เชิญรับฟังครับ”  เสียงไวโอลีนบรรเลงคลอเคล้ากับเสียงกีตาร์โปร่งดังขึ้นมา  เสียงพิณเริ่มดังสอดแทรกกันกับอูคูเลเล่  เสียงแคนบรรเลงรับกับการเขย่าลูกน้ำเต้า  เสียงเปอร์คัทชั่นทำหน้าที่ให้จังหวะอย่างหนักแน่น  พอสิ้นสุดท่อนอินโทรเด็กๆก็เปล่งเสียงร้องพร้อมๆกันอย่างมีพลังที่สดใสบริสุทธิ์ว่า...

“แดนดินถิ่นนี้นั้นมีความเป็นมา  หยาดเหงื่อหยดน้ำตาที่ปู่ย่าสู้ถากถาง  คุณค่าแห่งความดีวิถีอันงดงาม  สืบสานให้ยาวนานเถิดลูกหลานอย่าลืมเลือน
            ทุ่งกว้างภูเขาไฟเป็นหัวใจอันล้ำค่า  พืชพันธุ์นานาให้ชีวาสุขสบาย  ให้ผู้คนได้เลี้ยงกายให้วัวควายมีหญ้ากิน  ให้นกกาได้ผกผินได้โบยบินเบิกบานใจ 
โปรดเถิดผู้เมตตาให้สัตว์สาได้พักพิง  ให้พออยู่ให้พอกินไม่ดิ้นรนจนทำลาย  น้ำตาจากป่าเขาเพราะน้ำใจคนหล่นหาย  รากเหง้าเราทำลายให้เสียดายพงษ์เผ่าพันธุ์”
            พลังเสียงจากเด็กๆที่ร้องเพลงน้ำตาป่าเขาในคืนนี้ได้ส่งพลังอะไรบางอย่างไปสู่ผู้ใหญ่และสังคมอย่างมีมิติทางความคิดเป็นอย่างดี  เพลงน้ำตาป่าเขาไม่ใช่เพลงตลาดที่มีมูลค่าทางการเงินมหาศาลแต่อย่างใด  แต่เป็นบทเพลงที่มีมูลค่ามหาศาลต่อวิถีชีวิตของผู้คน  มีมูลค่าต่อรากเหง้าความเป็นมาของบรรพบุรุษ  มีมูลค่าต่อชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียงมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน... มีคุณค่ากับเด็กๆที่ร้องที่เล่นได้อย่างประทับใจ  ผมถามคุณครูลี่ว่าได้แรงบันดาลใจจากไหนในการเขียนเพลงน้ำตาจากป่าเขา  ผมได้รับคำตอบอย่างมหัศจรรย์ว่า... 
 
 ผมเขียนเพลงนี้ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย... เกือบ20ปีที่ผมจากบ้านเพื่อค้นหาตัวเอง วันนี้ผมจะกลับบ้าน  แต่ก้าวแรกที่เหยียบย่ำลงบนแผ่นดินที่ผมเคยเรียกว่าบ้าน วันนี้มันเหลือเพียงเสามุงหลังคา  ทุ่งกว้างที่ผมเคยวิ่งเล่นเติมเต็มชีวิตในวัยเด็กได้หายไปแล้ว ผมยืนมองทุ่งกว้างด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดจนยากที่จะอธิบาย  ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงของทุ่งหญ้าป่าเขาวัฒนธรรมประเพณี ที่นับวันจะเลือนลางจนแทบจะเหลือเพียงเปลือกที่หุ้มห่อ  ทุนนิยมเข้ามามีบทบาทกับชุมชน เงินคือปัจจัยหลักที่ผู้คนโหยหาและแสวงหา จนทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันเป็นรากเหง้าของคนของสังคม ป่าไม้ ลำธาร แผ่นดิน ถูกทำลายด้วยอำนาจของเงินตรา... 
ผู้คนทิ้งบ้านเรือนมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองใหญ่ไปเป็นหุ่นยนต์ขายแรงงานรับใช้นายทุน ครอบครับแตกสลายสังคมพังทลาย พ่อไปทางแม่ไปทาง ทิ้งเด็กๆและตายายแก่ให้เผชิญชะตาชีวิตโดยลำพังวันนี้ผมย้อนเรื่องราวภูมิปัญญาคนโบราณเพราะผมมองเห็นความงามเหล่านั้น การรักษาฟื้นฟูรากแก้วให้กลับมาแข็งแรงเท่านั้นจึงจะทำให้ต้นไม้ยืนต้านพายุในฤดูมรสุมได้  ความหวังเล็กๆของผม โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง จะเป็นแหล่งดำรงรักษาและส่งเสริม "ศิลปะการใช้ชีวิตบนวิถีเดิมๆ" เพื่อเป็นสมบัติให้ชนรุ่นหลังได้สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น แล้วบ้านเมืองถึงเดินหน้าต่อไปได้

เสียงเพลงจากเด็กๆโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ลงแผ่นดินท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว  จากนี้ไปโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างจะเป็นอีกโมเดลหนึ่งของการจัดการศึกษาทางเลือก  ผมคิดว่าถ้าเรามีโรงเรียนแบบนี้มีพื้นที่ดีๆแบบนี้ให้กับเด็กๆทั่วทั้งประเทศไทย  ลองคิดดูนะครับว่าอนาคตของประเทศชาติของเราจะงดงามขนาดไหน  ลองศึกษาความเป็นไปได้ดูนะครับระหว่างเสียงเพลงธรรมชาติกับการศึกษาทางเลือก  อยากเห็นบ้านเราในมุมนี้บ้าง  เจริญธรรมสำนึกดี....ครับ

Cr : (ภาพจากโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง)