“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง” ( ตอน ความสุขจาก...ลูกหมูใส่รองเท้า )
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
ติดตามข่าวนักฟุตบอลเยาวชน และผู้ฝึกสอน
ทีมหมูป่า อาคาเดมี่
รวม 13 คน ที่เข้าไปท่องเที่ยวในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
จังหวัดเชียงราย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23
มิถุนายน 2561
หลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จ และได้ติดอยู่ในถ้ำออกมาไม่ได้ รวม 18 วัน
เป็นระยะเวลากว่า 400
ชั่วโมง
ท่ามกลางความห่วงใยของคนทั้งประเทศรวมไปถึงพี่น้องทั่วโลก
ต่างก็มาช่วยเหลือกัน คิดหาวิธีการค้นหาและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างเต็มกำลัง
จนปฏิบัติการค้นหาช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมหมูป่า อาคาเดมี่
ประสบความสำเร็จลงได้อย่างงดงาม
ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ต้องปรบมือรัว
ๆ ชื่นชมสำหรับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในครั้งนี้
กับภารกิจที่ต้องใช้ความกล้าหาญ ความชำนาญ
และความรัก ทุกคนคือ ฮีโร่
ครับ
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของประเทศไทยก็ว่าได้ เพราะยังไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา
โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เหตุการณ์จากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนทุกฝ่ายจะต้องนำมาถอดบทเรียนในทุกมิติ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจร่วมกัน รวมถึงการแก้ไขสถานการณ์ในอนาคต
ผมเชื่อว่าความรู้สึกแรกของผู้ที่ติดตามข่าวนี้ปลาบปลื้มดีใจสุด
ๆ หลายคนคนดีใจจนน้ำตาซึมไม่แพ้กัน คือ หนึ่งวินาทีแรกที่ของการค้นหาและพบเจอ 13
หมูป่า ที่ยังมีชีวิตทั้งหมด สองวินาทีของการช่วยเหลือนำหมูป่าออกจากถ้ำได้คนแรก และสามวินาทีที่นำหมูป่าตัวสุดท้ายออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย รอยยิ้มของคนไทยทั่วทั้งประเทศในวันนั้นเกิดขึ้นพร้อม
ๆ กันอย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากที่ช่วยลุ้นทีมกู้ภัยหน่วยต่าง ๆ อย่างใจจดใจจ่อ
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้คลี่คลายลง ผมนึกถึงบทเพลงเพลงหนึ่งของวงสองวัยในชุด เจ้าผีเสื้อเอย นั่นคือเพลงลูกหมูใส่รองเท้า
ผมมองว่าเหตุการณ์นักฟุตบอลเยาชนและผู้ฝึกสอน ทีมหมูป่า
อาคาเดมี่ ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน กับเพลงลูกหมูใส่รองเท้า วงสองวัย
มีมุมมองเนื้อหา
ลำดับเหตุการณ์ ที่คล้าย ๆ กัน
แต่ต่างกรรม ต่างเวลา ต่างวาระ
ลองไปฟังดูนะครับ
เนื้อร้องมีอยู่ว่า...
“ เช้าแจ่มใสวันหนึ่งซึ่งเป็นวันน้ำนอง ลูกหมูก็อยากจะลอง
อยากจะลองเล่นโคลน
แต่แล้วก็ต้องคันเท้า พยาธิไชเข้าเท้ามัน ลูกหมูคิดได้โดยพลัน ต้องป้องกันทันที จึงทำรองเท้าด้วยไม้ ใช้เชือกเป็นสายชั้นดี เร็วๆมาช่วยกันซีจะได้ของดีเสียงดัง ก็อบ กิ๊บ ก็อบ..ก็อบ กิ๊บ ก็อบ..ก็อบ กิ๊บ ก็อบ กิ๊บ ก็อบ กิ๊บ ก็อบ กิ๊บ ก็อบ ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ฟังๆเสียงชั้นเดิน ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ก็อบ ก็อบ ก็อบ ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ฟังๆเสียงชั้นเดิน ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ก็อบ ก็อบ ก็อบ ”
แต่แล้วก็ต้องคันเท้า พยาธิไชเข้าเท้ามัน ลูกหมูคิดได้โดยพลัน ต้องป้องกันทันที จึงทำรองเท้าด้วยไม้ ใช้เชือกเป็นสายชั้นดี เร็วๆมาช่วยกันซีจะได้ของดีเสียงดัง ก็อบ กิ๊บ ก็อบ..ก็อบ กิ๊บ ก็อบ..ก็อบ กิ๊บ ก็อบ กิ๊บ ก็อบ กิ๊บ ก็อบ กิ๊บ ก็อบ ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ฟังๆเสียงชั้นเดิน ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ก็อบ ก็อบ ก็อบ ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ฟังๆเสียงชั้นเดิน ฟังๆเสียงชั้นเดินสิ ก็อบ ก็อบ ก็อบ ”
เรื่องราวของหมูป่าอาคาเดมี่ ทั้ง 13 ชีวิต
สอนเราให้รู้ว่า... ความรัก ความเมตตา
ความสมัครสมานสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และการทำหน้าที่ของตนเองให้มีความสมบูรณ์พร้อม จะนำมาซึ่งความสำเร็จและความสุขโดยทั่วกัน (สดุดีจ่าแซม ... นาวาตรีสมาน
กุนัน... วีรบุรุษถ้ำหลวง)
CR
: ภาพจากอินเตอร์เน็ต