ฮักแพง แบ่งปัน...
ดนตรีแห่งมิตรภาพ
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
มีผู้รู้หลายท่านได้กล่าวไว้ว่า... ดนตรีเป็นวัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติบนโลกใบนี้
ดนตรีเป็นวัฒนธรรมภาษาสากลที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสารซึ่งกันและกัน ดนตรีจึงเปรียบเสมือนเครื่องมือทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้มนุษย์สามารถรับรู้และเข้าใจตรงกันได้
พลังแห่งเสียงดนตรีจึงสามารถช่วยหล่อหลอมให้มนุษย์เกิดความรัก เกิดการแบ่งปันและเกิดมิตรภาพที่ดีต่อกัน
ผมพยายามนำดนตรีที่ร่ำเรียนมากลับไปรับใช้สังคมตามโอกาสต่าง
ๆ หลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงการรับใช้กลุ่มคนที่มุ่งหวังแค่ความสุข สนุกสนานเท่านั้น ยังไม่สามารถตอบโจทย์ตัวเองได้เลยว่านำดนตรีรับใช้สังคมได้อย่างไร
นั่นหมายความว่าดนตรีที่เรานำไปแสดงในงานต่าง
ๆ นั้น มันไปไม่ถึงเป้าหมายตรงนั้นสักครั้งหนี่ง
เป็นความโชคดีอีกครั้งหนึ่งเมื่อผมได้รับข่าวจากเพื่อนทางเฟสบุ๊คมีข้อความว่า “ มิตรภาพอันอบอุ่นจะอบอวนทั่วท้องทุ่งอันกว้างใหญ่อีกครั้ง
เชิญชวนเด็กๆทุกคนมาเติมเต็มจินตนาการผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย ซับดนตรีและวิถีธรรมทุ่งกว้างอันเรียบง่ายเพื่อสุนทรียะอันเบิกบาน เราเชื่อว่า
มิตรภาพและการเอื้อเฟื้อแบ่งปันน้ำใจให้กันและกันจะยังความงดงามและน่าอยู่ให้เกิดขึ้นกับสังคมได้
ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายถ้าท่านใดอยากร่วมแบ่งปันปัจจัยเพื่อเด็กๆก็สาธุครับ...”
ผมรีบติดต่อประสานงานไปยังครูลี่ทันที และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมทางดนตรีที่วงด่านช้างได้รับเกียรติในการแบ่งปันความสุขทางดนตรี ในงานเทศกาลวันเด็กในทุ่งกว้าง ครั้งที่ 3 ณ โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา
ความพิเศษของงานนี้คือ
ทุกคนไปด้วยหัวใจ ทุกคนไปเพื่อการแบ่งปันโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด
ๆ ตามสโลแกน “ฮักแพง
แบ่งปัน ชาวทุ่งกว้าง”
ความสุขของการแบ่งปันจากพวกเราวงด่านช้างครั้งนี้เป็นแนวดนตรีโฟร์คซองผสมผสานกับเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสาน ความพิเศษที่เราตั้งใจไว้คือ การนำเสนอแนวดนตรีที่มีความเป็นอีสานแท้ ๆ เช่น โหวด
พิณ แคน มาบรรเลงร่วมกันกับเครื่องสากลอย่างกีตาร์โปร่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นดนตรีอีกมิติหนึ่งที่ลงตัวมาก
ๆ ประกอบกับเพลงที่จะใช้ในการขับร้องก็เป็นเพลงของวงพวกเราทั้งหมด เช่น เพลงวิญญาณป่า ผีเสื้อน้อย
หน่อไม้กับเด็กชายอ่อนหวาน และเพลงพลังแห่งรัก
บรรยากาศในการเล่นดนตรีในครั้งนี้ถือว่าวงด่านช้างได้ทำหน้าที่ในการนำดนตรีไปรับใช้สังคมได้อย่างงดงามอีกครั้งหนึ่งไม่ว่าจะเป็นในส่วนชองเนื้อหาของบทเพลงและแนวดนตรีโฟร์คซองที่บรรเลงออกไป เด็ก ๆ นั่งปรบมือและลุกขึ้นเต้นกันอย่างสนุกสนาน
ที่สำคัญเขาฟังเพลงของเราและตอบคำถามจากบทเพลงที่เราร้องได้อย่างมีจินตนาการ บอกได้คำเดียวว่าประทับใจไม่มีวันลืมครับ หลังจากเล่นดนตรีเสร็จแล้วทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้มีความสุขมาก
ๆ
ยามเช้าของอีกวันหนึ่งผมมีโอกาสได้พูดคุยกับน้องปลื้ม เด็กชายปณิภัทร เถาแตง
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านถาวร หนึ่งในนักเรียนที่มาเรียนที่โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้างกับครูลี่ น้องเขาบอกว่า
“ การมาเรียนที่นี่ทำให้เขาเลิกจากการเป็นเด็กติดเกม ได้ปลูกผัก
ได้เล่นดนตรี
ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของตนเองและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ และที่สำคัญที่นี่สอนให้เราไม่ลืมรากเหง้าของตนเองด้วยครับ
” ผมได้แต่สะออนคำพูดของน้องเขา...ชื่นใจครับเด็ก ป.4
รู้จักคำว่ารากเหง้าของตัวเอง อยากเห็นการจัดการศึกษาไทยแบบนี้ทั่วทั้งประเทศบ้างครับ