อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง ( ตอน ต้องปลูกต้นไม้ก่อน...ถึงจะจบการศึกษาได้
)
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้เขียนกำลังกำลังขับรถเพื่อไปทำงาน ระหว่างนั้นได้เปิดวิทยุเพื่อรับฟังข่าวสารประจำวัน
พักหนึ่งก็มาสะดุดกับการพาดหัวข่าวอยู่ประเด็นหนึ่งที่ว่า ........... “ฟิลิปปินส์ออกกฎหมายให้นักเรียนนักศึกษาปลูกต้นไม้ก่อนจบการศึกษา”
ผู้เขียนพยายามตั้งใจฟังรายละเอียดของข่าวดังกล่าว พร้อมกับการตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับการจัดการศึกษาของประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์
ผู้นำของประเทศเขาคิดอะไรอยู่จึงต้องถึงขั้นการออกกฎหมายเพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้ปลูกต้นไม้ก่อนจบการศึกษาทุกคน หลังจากได้ฟังรายละเอียดทั้งหมดแล้วจึงสรุปความได้ว่า
สมาชิกรัฐสภาฟิลิปปินส์ได้ผ่านร่างกฎหมายใหม่
กำหนดให้นักเรียนมัธยมศึกษา และนักศึกษาวิทยาลัย ต้องปลูกต้นไม้อย่างน้อย 10 ต้น จึงจะจบการศึกษาได้ กฎหมายฉบับดังกล่าวเกิดขึ้นจากประเพณีปลูกต้นไม้เมื่อจบการศึกษาที่มีอยู่แต่เดิม
ซึ่งจะทำให้มีต้นไม้ปลูกใหม่เพิ่มปีละ 175 ล้านต้น เป้าหมายของกฎหมายฉบับนี้คือ จะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแก่คนรุ่นหลังและนำไปสู่ความคิดริเริ่มนิเวศวิทยาในลำดับต่อไป
นายแกรี
อเลจาโน สมาชิกสภาฟิลิปปินส์ พรรคมักลาโด พรรคการเมืองเสียงข้างน้อย
หัวหน้าคณะร่างกฎหมายปลูกต้นไม้ ระบุว่า แต่ละปีฟิลิปปินส์มีนักเรียนกว่า 12
ล้านคน ที่จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา มีนักเรียนประมาณ 5 ล้านคนที่จบการศึกษาชั้นมัธยม
และมีนักศึกษาเกือบ 5 แสนคนที่จบการศึกษาจากวิทยาลัย ซึ่งความคิดริเริ่มนี้เขาบอกว่าหากดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสม
ก็จะมีต้นไม้ใหม่ปลูกเพิ่มปีละอย่างน้อย 175 ล้านต้น ซึ่งเขาคำนวณคร่าว ๆ ว่า ระหว่าง
1 ชั่วอายุคน ประเทศเขาจะมีต้นไม้ปลูกเพิ่มไม่น้อยกว่า 525
ล้าน ให้คนรุ่นหลังซึ่งจะรับหน้าที่ต่อไป
นี่คือหนึ่งเรื่องง่าย
ๆ ของการใช้นโยบายการจัดการศึกษาให้กับพลเมืองของฟิลิปปินส์
นอกจากผู้เรียนจะได้รับการปลูกฝังด้านสิ่งแวดล้อมการปลูกต้นไม้แล้ว ประเทศของเขาก็มีจำนวนป่าไม้เพิ่มขึ้น ความสมบูรณ์ด้านทรัพยากรป่าไม้ก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ สุดท้ายสรรพสิ่งบนโลกก็จะได้รับประโยชน์เฉกเช่นเดียวกัน
ลองจินตนาการตามนะครับว่าถ้าทุกประเทศทำแบบนี้บ้างอะไรจะเกิดขึ้น การศึกษาไทยควรเอาแบบอย่างฟิลิปปินส์ในเรื่องนี้ อยากเห็นประเทศเราในมุมนี้บ้างครับ