“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง” (ตอน...พลังที่บริสุทธิ์)
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
“มาส่งยิ้มเปิดรับโอกาส
มาวาดฝันด้วยกันเยาวชน
ให้บ้านเมืองเรามีแต่ ความสุขล้น ด้วยมือคนพลเมืองดี มาสร้างสรรค์ให้เมืองศรีสะเกษ ดินแดนเขตสำนึกรักท้องถิ่น พลังเยาวชน พร้อมจะโบยบิน
สร้างสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม” นี่คือพลังเสียงจากเยาวชนหลายร้อยคนของจังหวัดศรีสะเกษที่ช่วยกันเปล่งเสียงร้องเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษ
ได้อย่างมีพลังและผมเชื่อว่าเพลงนี้จะยังก้องอยู่ในใจของเขาอีกนานแสนนานกันเลยทีเดียว แล้วเพลงนี้มันมีที่มาที่ไปยังไงตามผมมาเลยครับ
เพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษเป็นแค่เพียงบทเพลงที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อใช้ในกิจกรรมเยาวชนของจังหวัดศรีสะเกษแบบเฉพาะกิจเท่านั้น
โดยเพิ่ม นุกูลกิจ เป็นผู้ประพันธ์และมีโฟร์คซองจากวงด่านช้างมาช่วยกันบรรเลง ซึ่งประกอบด้วยพี่ตุ๊(เพอร์คัทชั่น) พี่ต้อม(กีตาร์โปร่ง) พี่โต้ง(ไวโอลีน) พี่วุธ(เมโลเดียน)และพี่เพิ่ม(กีตาร์โปร่ง-ร้องนำ) ภายใต้โครงการพัฒนาเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ ปี3
โดยศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับมูลนิธิกัมมาจลและสำนักงานกองทันสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ถ้าจะถามว่าเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษนั้นมีกระแสที่โด่งดังเหมือนเพลงทั่วๆไปหรือไม่ ผมตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่า “ไม่เลย” แต่ผมคิดว่าเพลงนี้มันได้ทำหน้าที่ในการสื่อสารระหว่างเนื้อหาของบทเพลงกับกลุ่มเด็กและเยาวชนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษได้พอสมควร
เมื่อวันที่2 ธันวาคม พ.ศ.2560
ผมและน้องๆวงด่านช้างได้ไปเล่นดนตรีงานมหกรรมหนังกลางแปลง
“พลังเยาวชนพลเมืองรุ่นใหม่ทำดีเพื่อแผ่นดินเกิด” ณ
ลานกิจกรรมโคปุระ
เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ
จ.ศรีสะเกษ
บรรยากาศของงานจัดได้ดีมากๆ
ประทับใจสุดๆก็ตอนที่เด็กและเยาวชนช่วยกันร้องเพลงที่ผมแต่งให้ได้อย่างมีพลัง “มาส่งยิ้มเปิดรับโอกาส
มาวาดฝันด้วยกันเยาวชน
ให้บ้านเมืองเรามีแต่ ความสุขล้น ด้วยมือคนพลเมืองดี ....” อย่างน้อยเด็กๆก็ได้ความภาคภูมิใจล่ะ ว่าครั้งหนึ่งเขาคือพลเมืองดีศรีสะกษนะ เขาคือผู้ที่มีส่วนสร้างสรรค์กิจกรรมสำนึกรักท้องถิ่นในบ้านเกิดของตัวเองและได้ทำอะไรให้กับส่วนรวมในช่วงที่เป็นเด็กและเยาวชนซึ่งน้อยคนนักที่จะได้รับโอกาสดีๆแบบนี้จากผู้ใหญ่ใจดีในสังคมปัจจุบัน
เด็กๆยังคงร้องเพลงต่อไปจนมาถึงท่อนแยกของเพลง
“มาเปิดใจรักฮักศรีสะเกษ
เพราะเราเป็นคน
รุ่นใหม่ จะอยู่แห่งไหนก็รักศรีสะเกษ ก็บ้านเรามีแต่คนมีน้ำใจ ไม่เคยเห็นแก่ตัว” ในท่อนฮุคนี้เด็กและเยาวชนเขาจะได้มุมมองใหม่ๆ นั่นก็คือ
มุมมองของคนรุ่นใหม่อย่างพวกเขาที่จะเปิดหัวใจเรียนรู้การมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรักบ้านเกิดของตัวเอง การกลับมามองบ้านเกิดในฐานะพลังเยาวชนรุ่นใหม่ที่บริสุทธิ์อย่างคนที่มีน้ำใจคนที่ไม่เห็นแก่ตัวถือว่าคุ้มค่ามากกับประโยคของเพลง แล้วมาจบลงที่ท่อนสุดท้ายของเพลงที่ว่า “มาส่งยิ้มเปิดรับวันใหม่ ด้วยหัวใจรักและชื่นบาน เมื่อเยาวชนจับมือประสาน เป็นพลังในการพัฒนาศรีสะเกษบ้านเรา”
หลังจากกิจกรรมโครงการเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ ปี3
ผ่านไปได้ไม่นานผมมีโอกาสได้พูดคุยกันกับน้องพิมพ์ น.ส.พิมพ์จันทร์ ชอบชื่น
นักเรียนชั้นม.6/5 โรงเรียนปรางค์กู่
หนึ่งในเยาวชนกลุ่มSpykidsเยาวชนบ้านขี้นาค ต.ตูม
อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ
น้องเขาเล่าให้ผมฟังว่าเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษมีส่วนช่วยให้เขารู้สึกรักบ้านเกิดขึ้นมา อยากที่จะทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม มีความตระหนักถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้สามารถช่วยขับเคลื่อนและแก้ปัญหาสังคมได้ สร้างจิตสำนึกให้เราเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว น้องพิมพ์ยังบอกอีกว่าเวลาร้องเพลงเปิดใจฮักศรีสะเกษแล้วรู้สึกฮึกเหิม มีกำลังใจ
ดนตรีโฟร์คซองวงด่านช้างก็เล่นสนุกดี
ร้องเพลงเข้ากับบรรยากาศของงาน
มีมุกตลกให้ได้สนุกสนานขำขันบางช่วงบางตอนและเพลงที่นำมาร้องก็เข้ากับบรรยากาศของงานค่ะ
คำถามสุดท้ายที่คุยกับน้องพิมพ์ คือ
การจัดโครงการในลักษณะนี้มีประโยชน์กับเด็กๆและเยาวชนอย่างไรบ้าง? และให้เชิญชวนเพื่อนๆเยาวชนมาร่วมโครงการ... น้องพิมพ์บอกเลยว่าเป็นโครงการและกิจกรรมที่ดีมากๆเลยค่ะ เพราะว่า
ทำให้เราได้รู้จักตัวเองและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นค่ะ ได้พัฒนาทักษะต่างๆมากมาย
ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนด้วยค่ะ
สุดท้ายก็อยากจะเชิญชวนให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามาทำกิจกรรมดีๆแบบนี้เพราะว่าโอกาสที่เราจะได้ทำสิ่งดีๆแบบนี้นั้นหายากมาก และยังทำให้รู้สึกรักบ้านเกิดซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้เราเติบโตขึ้นเป็นอนาคตของชาติที่ดีได้.....ครับอยากเห็นเด็กและเยาวชนของจังหวัดศรีสะเกษในทุกพื้นที่อย่างมุมนี้บ้างครับ