วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562

บทความทางวิชากาล เรื่อง วันครู...บนโลกออนไลด์


อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง  ( ตอน  วันครู...บนโลกออนไลด์ )
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            “ปาเจรา  จาริยา  โหนติ  คุณุตตะรา  นุสาสะการ”  เสียงกล่าวนำบทไหว้ครูจากตัวแทนครูอาวุโสดังอย่างไพเราะนุ่มนวล  เหมือนดั่งมนต์ขลังสะกดให้ผู้ที่เข้าร่วมงานทุกคนอยู่ในความเงียบอย่างน่าอัศจรรย์พร้อมเปล่งเสียงร้องบทไหว้ครูพร้อมกันอย่างมีพลัง  “ ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์  ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา  ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา  อบรมจริยา  แก่ข้าในการปัจจุบัน...”  นี่คือบรรยากาศในช่วงพิธีการของคณะครูที่เข้าร่วมงานวันครูในปีนี้

            วันครูแห่งชาติของทุกปีถือได้ว่าเป็นวันของทุก ๆ คน เหตุผลก็คือ  เพราะวันนี้เป็นวันที่เราได้ระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ แม่พิมพ์ พ่อพิมพ์ของชาติที่ได้อบรมสั่งสอนเรามาตั้งแต่เล็ก ทำให้เราเป็นคนดีมีวิชาความรู้ เพราะฉะนั้นครูจึงเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างมากในวงการการศึกษาทั้งในด้านวิชาการ คุณธรรมจริยธรรมและประสบการณ์ รวมทั้งเป็นอาชีพที่ถือว่ามีความเสียสละเพื่อส่วนรวมอย่างมาก อย่างที่หลาย ๆคนมักจะกล่าวอยู่เสมอว่า  “ ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะครู ” 
            คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ให้วันที่ 16 มกราคม ของทุกปีเป็น "วันครู" โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา  เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2488 เป็นวันครู และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้  วันที่  16  เดือนมกราคมของทุกปี  จึงถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ซึ่งเรียกวันนี้ว่า  “วันครูแห่งชาติ”

  สำหรับรูปแบบการจัดงานวันครูนั้นโดยทั่วไปจะมีกิจกรรมทางศาสนา  กิจกรรมพิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์  และกิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากจะเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น  เพื่อสร้างความสนุกสนานและปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมอาชีพ
ปรากฏการณ์หนึ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตและเห็นความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยก็คือ  การใช้สื่อออนไลด์ในการโพสน์ข้อความ  การส่งรูปภาพต่าง ๆ  เพื่อบอกเล่า  อวยพร  ระลึกถึงพระคุญของคุณครูเก่า ๆ  คุณครูคนแรก  คุณครูสมัยประถม ...ฯลฯ  ผมมองว่าเป็นการแสดงออกที่ดีน่าชื่นชมครับ  สรุปว่าวันนี้ทั้งวันเราก็จะได้รับข้อมูลข่าวสารจากเพื่อน ๆ แบบนี้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน


 แต่อีกมุมหนึ่งเหมือนมันไหลไปตามกระแสโลกโซเชียลจริง ๆ  มีการคัดลอกข้อความส่งต่อ ๆ กันไป  ซึ่งความจริงไม่รู้ว่าคุณครูเขาจะได้อ่านหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้  ผมว่าถ้าเราเปลี่ยนจากส่งข้อความลอย ๆ เป็นการแวะเยี่ยม  พูดคุย  ทักทายหรือโทรศัพน์หาท่านสักครั้งในแต่ละปี  หรือทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับคุณครูที่ล่วงลับไปแล้วก็น่าจะเข้าท่านะครับ  ความปลื้มปีติยินดีของคุณครูคงจะล้นเอ่อ มากกว่าการพร่ำเพ้อด้วยตัวอักษรในโลกออนไลด์   อยากเห็นลูกศิษย์ในมุมนี้บ้างครับ