วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

รอมานานถึง 78 ปี


อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง  ( ตอน รอมานานถึง... 78  ปี )
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
            นับตั้งแต่ประเทศไทยประกาศใช้กฎหมาย  พ.ร.บ. ป่าไม้  พ.ศ.2484  นับถึงปีปัจจุบัน (พ.ศ.2562)  ปีนี้อายุครบ 78  ปี  ถ้าเปรียบกับอายุของคนทั่วไปแล้วถือว่าเข้าสู่วัยชราภาพจะทำอะไรก็ลำบาก  ลูกหลานต้องช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด  ถึงแม้ว่าอายุของกฎหมายกับอายุของคนเรานั้นจะนำมาเปรียบเทียบกันมิได้ก็ตาม   แต่ถ้านับระยะเวลาการบังคับใช้แล้วก็ถือได้ว่าล้าหลังพอสมควร  และควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข  เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน

ผลของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวผ่านมา  78  ปี  ส่งผลให้ป่าไม้ของไทยลดลงมาเรื่อย ๆ  เมื่อจากเทียบอดีตจนถึงปัจจุบันพบว่า  พื้นที่ป่าหายไปกว่าครึ่ง โดยหากย้อนกลับไปดูภาพจากอดีตประเทศไทยนั้นอุดมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของป่าไม้อยู่ในทั่วทุกภูมิภาค   แต่เมื่อเทียบกับแผนที่แสดงป่าไม้ที่ใช้กันในปัจจุบัน พบว่าพื้นที่ป่านั้นได้ลดลงอย่างน่าใจหาย  มีเพียงภาคเหนือและตะวันตกเท่านั้นที่ยังคงมีพื้นที่สีเขียวให้เห็นมากที่สุด 
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่านั้น สืบเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าที่ยังคงกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ  การแผ้วถางเพื่อการเกษตร  การครอบครองพื้นที่ป่าเพื่ออยู่อาศัยและทำกิน  ทั้งยังมีปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรอีกด้วย  และปัญหาหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ  ปัญหาการประกาศใช้  พ.ร.บ.  ป่าไม้  พ.ศ.2484 

เพราะเรื่องการกำหนดชนิดไม้สงวนหวงห้ามไว้ในมาตรา7  ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวและกังวลไม่กล้าปลูกไม้ในทีดินที่มีกรรมสิทธิ์ของตนเอง  ตรงกันข้ามกลับให้มีการสัมปทานป่าไม้แก่กลุ่มนายทุนการกระทำเช่นนี้จึงทำให้ป่าไม้หมดไปจากบ้านเรา 
ความพยายามให้มีการแก้ไขกฎหมาย  (พ.ร.บ.  ป่าไม้  พ.ศ.2484)  จากองค์กรภาคประชาชนหลาย ๆ องค์กรร่วมกันเรียกร้องและต่อสู้ร่วมกันก็มาสำเร็จเอาในช่วงรัฐบาลคสช   และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17  เมษายน  พ.ศ. 2562 ความสำเร็จนี้เป็นเพียงก้าวหนึ่งเท่านั้นในรอบ  78  ปี  ต่อไปนี้ไม้ทุกชนิดสามารถปลูกและใช้ประโยชน์ได้แล้วนะครับ ไม่เป็นไม้หวงห้ามอีกต่อไปแล้ว  ตามมาตรานี้เลยครับ   
"มาตรา 7 ไม้ชนิดใดที่ขึ้นในป่าจะให้เป็นไม้หวงห้ามประเภทใด ให้กำหนดโดย พระราชกฤษฎีกา สำหรับไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวล กฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม หรือไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดิน ที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภท หนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ให้ถือว่าไม่เป็น ไม้หวงห้าม"

ต่อจากนี้ประชาชนที่มีที่ดินของตัวเองสามารถปลูกไม้มีค่าได้ เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ให้ครัวเรือน รวมถึงเพิ่มพื้นที่ป่าและความชุ่มชื้นให้กับโลกของเรา  การปลูกป่าเป็นการสร้างรายได้และสามารถที่จะลดการลักลอบการตัดไม้ในพื้นที่ป่าลงได้อีกทางหนึ่ง  มาปลูกต้นไม้กันเยอะ ๆ  นะครับ  อยากเห็นบ้านเราในมุมนี้บ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น