อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง ( ตอน รอมานานถึง... 78 ปี )
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
นับตั้งแต่ประเทศไทยประกาศใช้กฎหมาย
พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.2484 นับถึงปีปัจจุบัน (พ.ศ.2562) ปีนี้อายุครบ 78 ปี ถ้าเปรียบกับอายุของคนทั่วไปแล้วถือว่าเข้าสู่วัยชราภาพจะทำอะไรก็ลำบาก ลูกหลานต้องช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าอายุของกฎหมายกับอายุของคนเรานั้นจะนำมาเปรียบเทียบกันมิได้ก็ตาม
แต่ถ้านับระยะเวลาการบังคับใช้แล้วก็ถือได้ว่าล้าหลังพอสมควร และควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน
ผลของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวผ่านมา 78 ปี ส่งผลให้ป่าไม้ของไทยลดลงมาเรื่อย ๆ เมื่อจากเทียบอดีตจนถึงปัจจุบันพบว่า พื้นที่ป่าหายไปกว่าครึ่ง โดยหากย้อนกลับไปดูภาพจากอดีตประเทศไทยนั้นอุดมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของป่าไม้อยู่ในทั่วทุกภูมิภาค
แต่เมื่อเทียบกับแผนที่แสดงป่าไม้ที่ใช้กันในปัจจุบัน
พบว่าพื้นที่ป่านั้นได้ลดลงอย่างน่าใจหาย มีเพียงภาคเหนือและตะวันตกเท่านั้นที่ยังคงมีพื้นที่สีเขียวให้เห็นมากที่สุด
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่านั้น สืบเนื่องมาจากปัจจัยต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าที่ยังคงกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ การแผ้วถางเพื่อการเกษตร การครอบครองพื้นที่ป่าเพื่ออยู่อาศัยและทำกิน ทั้งยังมีปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรอีกด้วย และปัญหาหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ
ปัญหาการประกาศใช้ พ.ร.บ. ป่าไม้
พ.ศ.2484
เพราะเรื่องการกำหนดชนิดไม้สงวนหวงห้ามไว้ในมาตรา7 ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวและกังวลไม่กล้าปลูกไม้ในทีดินที่มีกรรมสิทธิ์ของตนเอง
ตรงกันข้ามกลับให้มีการสัมปทานป่าไม้แก่กลุ่มนายทุนการกระทำเช่นนี้จึงทำให้ป่าไม้หมดไปจากบ้านเรา
ความพยายามให้มีการแก้ไขกฎหมาย (พ.ร.บ.
ป่าไม้ พ.ศ.2484) จากองค์กรภาคประชาชนหลาย ๆ องค์กรร่วมกันเรียกร้องและต่อสู้ร่วมกันก็มาสำเร็จเอาในช่วงรัฐบาลคสช
และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562 ความสำเร็จนี้เป็นเพียงก้าวหนึ่งเท่านั้นในรอบ 78
ปี ต่อไปนี้ไม้ทุกชนิดสามารถปลูกและใช้ประโยชน์ได้แล้วนะครับ
ไม่เป็นไม้หวงห้ามอีกต่อไปแล้ว
ตามมาตรานี้เลยครับ
"มาตรา 7 ไม้ชนิดใดที่ขึ้นในป่าจะให้เป็นไม้หวงห้ามประเภทใด
ให้กำหนดโดย พระราชกฤษฎีกา สำหรับไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวล
กฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม หรือไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดิน
ที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภท
หนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ให้ถือว่าไม่เป็น ไม้หวงห้าม"
ต่อจากนี้ประชาชนที่มีที่ดินของตัวเองสามารถปลูกไม้มีค่าได้
เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ให้ครัวเรือน
รวมถึงเพิ่มพื้นที่ป่าและความชุ่มชื้นให้กับโลกของเรา การปลูกป่าเป็นการสร้างรายได้และสามารถที่จะลดการลักลอบการตัดไม้ในพื้นที่ป่าลงได้อีกทางหนึ่ง มาปลูกต้นไม้กันเยอะ
ๆ นะครับ
อยากเห็นบ้านเราในมุมนี้บ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น