“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง” (ตอน...เสื่อหนึ่งผืน หมอน 1 ใบ)
โดย...นุกูลกิจ ทวีชาติ
ผมมีโอกาสได้ดูละครเรื่องอยู่กับก๋งในช่วงเวลาวันหยุดเสาร์
–
อาทิตย์ แล้วเกิดความประทับใจในวัฒนธรรมวิธีการสอนของชาวจีนในแผ่นดินสยามที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่บรรพบุรุษถึงปัจจุบัน และภาพความประทับใจนั้นก็มาติดซึ้งตรึงใจอยู่ตรงบทเพลงที่ใช้ประกอบละครเรื่องอยู่กับก๋ง นั่นคือเพลงวิหคพลัดถิ่น
วิหคพลัดถิ่นในส่วนของภาคดนตรีนั้นมีการเรียบเรียงเสียงประสานอย่างอลังการมีการนำทำนองกลิ่นอายแบบจีนมาผสมผสานได้อย่างลงตัวและน่าฟัง ถึงแม้เพลงวิหคพลัดถิ่นไม่ได้มีเนื้อหากล่าวถึงในหลวงโดยตรง
แต่มีการมุ่งเน้นไปที่การสำนึกในบุญคุณแผ่นดิน โดยเฉพาะในท่อนจบที่มีการพูดถึงการสำนึกในบุญคุณใต้แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างกินใจมาก คือ “...อยากฝากกายวิหคพลัดถิ่น
ใต้แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัว ...จดจำสำนึกคุณ”
เรื่องราวของวิหคพลัดถิ่นถึงแม้จะมีเวลาเล่าเรื่องราวแค่
3.04 นาที แต่มนต์เสน่ห์ของเพลงทำให้ผมสนใจเรื่องราวคำสอนของชาวจีนในแผ่นดินสยามที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน จากสื่อผืนหมอนใบที่ได้นำติดตัวมา
ทุกวันนี้พี่น้องชาวจีนได้ประกอบธุรกิจเป็นฐานเศรษฐกิจที่เป็นกำลังหลักของประเทศมากมายอย่างที่รู้จักกัน ด้วยคำสอน
5 คำ ที่ปลูกฝังต่อกันมาตั้งแต่เด็กนั่นก็คือ ความขยัน
ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน
กตัญญู คำสอนเหล่านี้มีความสำคัญมากที่ต้องมีและอยู่คู่กับคนไทยเหมือนที่คนจีนเขาสอนลูกสอนหลานของเขา
นอกจากสิ่งที่ต้องมีในตัวเองแล้วยังมีคำสอนที่คนจีนห้ามพูดโดยเด็ดขาดอีก
5 คำ ได้แก่ หนึ่งห้ามพูดว่า ยาก
เพราะมันจะไปปิดกั้นความสามารถเราทันที
สองห้ามพูดว่า ทำไม่ได้ เพราะมันเป็นการปิดกั้นการเรียนรู้ของเรา สามห้ามพูดว่า ท้อ
เพราะพลังทั้งมวลจะสูญสิ้นจากตัวเรา
สี่ห้ามพูดว่า ขี้เกียจ เพราะเป็นการสร้างความไม่รับผิดชอบให้เกิดขึ้นกับตัวเอง
และประการสุดท้ายห้ามพูดว่า เหนื่อย เพราะร่างกายจะตอบสนองด้วยการอ่อนแอลงทันที
จากเสื่อหนึ่งผืน หมอนหนึ่งใบ
และคำสอนง่ายๆแบบนี้ผมอยากเห็น อยากให้เข้าไปอยู่ในใจของเยาวชนไทยทุกคน
หาวิธีการช่วยกันนะครับอยากเห็นคนไทยในมุมนี้บ้าง....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น