วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2560

สงกรานต์กลายพันธุ์

“อยากเห็นศรีสะเกษ....ในมุมนี้บ้าง”  (ตอน...สงกรานต์กลายพันธุ์)
โดย...นุกูลกิจ  ทวีชาติ
“ฟ้าใหม่แล้วละนะน้องสงกรานต์เร้าร้องทำนองเพลงโยน  โน่นไงจ๊ะโทนป๊ะโทนโทนทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ  วันตรุษหยุดการหยุดงานสังคมชาวบ้านสิคร้านครึกครื้น   เริงสงกรานต์กันพอขวัญชื้นๆฉลองวันคืน จนครื้นเครงคลาน”  นี่คือวรรคแรกของเพลงเพลงหนึ่งที่อยากให้ผู้อ่านลองทายกันเล่นๆว่า  ข้อความที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นเนื้อร้องเพลงอะไร?  ผมเฉลยให้นิดหนึ่งก็ได้ว่าแต่เดิมเพลงนี้ได้รับความนิยมมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทยเรา...ได้คำตอบกันหรือยังล่ะครับ? 

นี่คือเพลงที่ถูกนำมาขับร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถึงปัจจุบันในช่วงเทศกาลสงกรานต์  ชื่อเพลงว่ารำวงเริงสงกรานต์ ประพันธ์เนื้อร้องโดย  ครูแก้ว  อัจฉริยะกุล  และขับร้องโดยวงสุนทราภรณ์  เพลงรำวงเริงสงกรานต์ถือเป็นเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใช้เฉพาะในช่วงประเพณีหรือเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น  โดยตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ที่ผ่านมาความเป็นอมตะของเพลงก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ถึงปัจจุบัน  ด้วยจังหวะรำวงที่สนุกสนาน การประพันธ์เนื้อร้องที่เป็นบทกวี  การใช้เทคนิคการร้องสลับกันของฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงและมีท่อนสร้อยเพลงวนไปมาทุกวรรคเพลง  ทำให้เพลงดังกล่าวเปรียบสเหมือนเป็นสัญลักษณ์ทางดนตรีของงานประเพณีสงกรานต์ไปเรียบร้อย 

            เพลงรำวงเริงสงกรานต์ได้ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดถึงบรรยากาศประเพณีสงกรานต์อย่างไทยได้อย่างงดงามในส่วนของการสร้างบรรยากาศให้เกิดความสนุกสนานรื่นเริง   ส่วนประเพณีสงกรานต์นั้นโดยแก่นแท้ๆแล้วถือเป็นประเพณีสำหรับการรดน้ำขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อเป็นสิริมงคลที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ  ต่อเนื่องด้วยการทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า  การสรงน้ำพระ  การก่อพระเจดีย์ทราย  การทำบุญอัฐิญาติผู้ใหญ่ การปล่อยนกปล่อยปลา และมีการละเล่นพื้นบ้านของไทย คือ การเล่นมอญซ่อนผ้า และ การเล่นสะบ้า  เป็นต้น   ภาพบรรยากาศประเพณีสงกรานต์แบบดั้งเดิมที่กล่าวมาเริ่มจางหายไปจากสังคมไทยและมีการสร้างวัฒนธรรมสงกรานต์แบบใหม่ขึ้นมาแทนที่เป็นสงกรานต์เพื่อธุรกิจ  สงกรานต์เพื่อผลกำไร  สักวันหนึ่งสิ่งที่ดีงามของประเพณีดั้งเดิมก็จะถูกกลืนหายจนหมดสิ้น

            เมื่อขนบดั้งเดิมไม่ได้รับการดูแลหรืออนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่อย่างเหมาะสมจึงถูกสร้างประเพณีสงกรานต์แบบใหม่ขึ้นมาแทนที่ชนิดว่ากู่ไม่กลับแล้ว  เช่น การสาดน้ำจากบนรถปิคอัพ การใช้ปืนฉีดน้ำ การใช้น้ำแข็งหรือการใช้แป้งสีต่างๆระบายหรือละเลงไปตามตัวและหน้าตารวมทั้งการเต้นแบบโคโยตี้    ซึ่งนี่ก็เป็นงานยอดฮิตที่ไม่มีใครกล้าต้านกระแสดังกล่าวได้เลย  ถือเป็นการรุกหนักของกระแสทุนนิยมผ่านวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของไทยโดยไม่รู้ตัว  เมื่อถึง  ณ  จุดจุดหนึ่งประเพณีสงกรานต์ของไทยจะเป็นอย่างไรนั้นคงคาดเดาได้ไม่ยากนัก  แต่ผมเชื่อว่ามันยังไม่ถึงทางตันขนาดนั้นช่วยกันนะครับประเพณีสงกรานต์แบบดั้งเดิมต้องอยู่คู่คนไทย   ช่วยกันสืบสานประเพณีที่ดีงามไว้ให้ลูกหลานบ้างเด้อ  อย่ามัวเมาลุ่มหลงในวัฒนธรรมอื่นจนลืมความเป็นไทยแท้ๆ  อยากเห็นในมุมนี้บ้าง....ครับพี่น้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น